ระบายข้าวจีทูจี ชี้ชะตา "บุญทรง"

ป.ป.ช. ใช้เวลา 2 ปีเศษ รวบรวมพยานหลักฐานการระบายข้าวแบบ จีทูจี กระทั่งเมื่อปี 2558 สรุปสำนวนหลักฐานการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา ส่งให้ อัยการสูงสุดยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เริ่มจาก 4 ธ.ค. 55 ป.ป.ช.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ข้อร้องเรียน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาเกิดการทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจีเก๊ โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
20 ม.ค.58 ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ , นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และคณะข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศ , สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ กับเอกชนรวม 28 ราย ว่าด้วยการฮั้วประมูล
16 ก.พ.58 สำนวน ป.ป.ช.ส่งถึงมืออัยการสูงสุด ตระกูล วินิจนัยภาค แต่ อัยการเห็นว่าสำนวนไร้ข้อไม่สมบูรณ์ ไม่ต้องตั้งคณะทำงานร่วมสอบประเด็นเพิ่มเติม
15 มี.ค.58 อัยการสูงสุด สั่งคณะทำงานอัยการยื่นฟ้อง นายบุญทรง และคณะอดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 3 คน / ข้าราชการการเมือง 3 คน / นิติบุคคลและกรรมการบริษัทรวม 21 ราย ตามความผิดพรบ. ฮั้วประมูล และมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ / มีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต และมีการฟ้องเพิ่มอีก 7 ราย

ขณะที่ศาลให้ประกันจำเลย ตีวงเงินประกันสำหรับนายบุญทรง อดีตรมว.พาณิชย์ , นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ , เสี่ยเปี๋ยง อภิชาต จันทร์สกุลพร นักค้าข้าวคนสำคัญ คนละ 20 ล้านบาท ส่วนจำเลยอื่นคดี จีทูจี ศาลให้ประกันโดยกำหนดวงเงินคนละ 5 - 8 ล้านบาท
12 พ.ย.58 ศาลตรวจหลักฐาน และ พยานทั้งสองฝ่าย อัยการโจทก์ ยื่นบัญชีพยานบุคคล 122 ปาก ส่วนจำเลยทั้งหมด ยื่นบัญชีพยาน 1,032 ปาก แต่สุดท้ายถูกตัดออก อัยการโจทก์ นำพยานไต่สวน 29 ปาก ส่วนจำเลย ให้ไต่สวนพยานได้ 92 ปาก ซึ่งสองฝ่ายก็มีพยานร่วมกันด้วยอีก 19 ปาก

17 มี.ค.58 คณะทำงานอัยการหอบคำฟ้องหนากว่า 40 หน้า เอกสารหลักฐาน 1,628 แฟ้มรวม 70,000 หน้า รวม 205 ลัง ยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลฎีกาฯ ขอให้ศาลสั่งปรับจำเลยทั้ง 21 ราย รวม 35,274,611,007 บาท คิดคำนวณจากมูลค่าครึ่งหนึ่งในสัญญาระบายข้าวกว่า 5 ล้านตัน พบว่าทำผิดสัญญา 4 ใน 8 ฉบับ

ขณะที่ วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หรือ "หมอโด่ง" จำเลยที่ 3 อดีตผู้ช่วยเลขานุการและอดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ และ นายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 คนสนิทขอ เสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ หนีคดีไปก่อน // ศาลจึงสั่งออกหมายจับและจำหน่ายคดีชั่วคราว จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ตามฟ้องจำเลยทั้งหมด แบ่งหน้าที่กันทำ เป็นลำดับขั้นตอน เสนอขายข้าวให้กับบริษัท กวางตุ้ง และบริษัท ไห่หนาน ตัวแทนของจีน ที่ได้สิทธิซื้อข้าวจากไทย ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด แบบรัฐต่อรัฐ / บริษัททั้งสองไมได้เป็นตัวแทนของจีน ขณะเดียวจำเลยยังได้ขายข้าวให้กับเอกชนที่ตกเป็นเลนด้วยกัน ชำระราคา และรับมอบข้าว ที่มีมีความผิดปกติเกิดขึ้น และยับยั้ง หรือ ยกเลิกการทำสัญญา เข้าข่ายฮั้วประมูล

5 ก.ค.60 ศาลฎีกาฯ ไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย โดยฝ่ายนายบุญทรง และคณะ นำ นายซู จ้าวหมิง ทนายความบริษัทเอกชนในประเทศจีน ที่ได้รับว่าจ้างให้ตรวจสอบสัญญาการซื้อขายข้าว ของบริษัท กวางตุ้ง จำกัด และบริษัท ไห่หนาน เพื่อยืนยันว่าได้โควต้าจากรัฐบาลกลางจีน ในการซื้อขายข้าวกับรัฐบาลไทย

หลักฐานทั้งหมดนำสืบนี้ จะมีน้ำหนักมากน้อยแต่ไหน อยู่ทีดุลพินิจของศาลฏีกาจะเป็นผู้ชี้ชะดารวมดาวนักการเมืองดังของไทย