แฉเล่ห์เต็นท์รถมือสอง "ตบเงินมัดจำ" ลูกค้า

พลตํารวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 เปิดเผยกับทีมล่าความจริง ว่า วิธีการที่คนร้ายใช้ในการฉ้อโกงหรือหลอกลวงประชาชน เป็นรูปแบบง่ายๆ ก็คือ จะตั้งราคาขายทางโซเชียลหรือทางออนไลน์ในราคาถูก แต่พอมาซื้อจริงที่เต็นท์กลับขายแพงกว่าที่โฆษณาไว้โดยอ้างว่าเป็นรถยนต์คนละคันกับที่ลงในโซเชียล

หากมีการซื้อขายกันในโลกออนไลน์ คนร้ายจะให้ผู้ซื้อทำการโอนเงินมัดจำมาก่อนรายละ 2,000 5,000 บาท ถ้าเป็นการซื้อขายโดยตรงก็จะขอรับเงินมัดจำก่อนเช่นกัน จากนั้นก็จะให้ลูกจ้างของตัวเองทำทีติดต่อไฟแนนซ์ และทิ้งช่วงเวลาไว้ 2-3 วัน ก่อนจะติดต่อกลับแล้วบอกว่าการขอยื่นไฟแนนซ์ไม่ผ่าน แล้วยึดเงินมัดจำ เรียกง่ายๆว่า "แก๊งตบเงินมัดจำ"

หรือหากผู้ทำการจองรถตามสเปคที่ต้องการ แล้วกูไฟแนนซ์ผ่าน แต่พอถือเวลาทางเต็นท์รถกลับนำรถที่ไม่ได้ตามที่ผู้ซื้อต้องการมาให้ หากลูกค้าไม่ทำการซื้อหรือบ่ายเบี่ยง แก๊งก็ัจะถูกแก๊ง ตบเงินมัดจำเหล่านี้ ยึดเงินมัดจำเหมือนกัน
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ยังบอกกับทีมล่าความจริงด้วยว่า ในกรณีที่อาจมีการฮั้วกันระหว่างเจ้าของเต็นท์ขายรถกับไฟแนนซ์นั้น ก็มีความเป็นไปได้ ตำรวจกำลังขยายผลอยู่ ขณะนี้มีแก๊งตบเงินมัดจำลูกค้าของพวกเต็นท์รถมือสอง เพื่อมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด

หากพิจารณาดูว่าเงินมัดจำอาจจะดูไม่เยอะ เพียงแค่หลักพันบาท แต่มิจฉาชีพจะเน้นไปที่ปริมาณที่หลอกลวงมาได้มากกว่า ซึ่งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งเข้ามายังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที