ปิดล้อม4จุด คุมตัวเพิ่ม 4ราย พัวพันปล้นรถทำคาร์บอมบ์

            ความคืบหน้า คดีที่คนร้ายชิงรถกระบะมาจากปัตตานี 1 คัน ก่อนใช้บุกปล้นเต็นท์รถมือสองวังโต้คาร์เซ็นเตอร์ ใน อ.นาทวี จ.สงขลา และชิงรถกระบะขับหลบหนีไป 6 คัน (รวมทั้งหมด 7 คัน) จับเจ้าของเต็นท์รถและลูกน้องไปเป็นตัวประกัน ก่อนยิงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย หนีรอดมาได้ 2 ราย ส่วนคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 ราย เเละต่อมา จนท.ได้เจอรถเเล้ว 7 คัน เมื่อ 16 สค.ที่ผ่านมา  จากนั้นมีการปิดล้อมตรวจค้นมาอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงาน 23 สค. ครอบครัวของนายนูรฮาซัน อาแว  ที่ถูกวิสามัญในคดีปล้นรถนั้น  ที่บ้านแบรอจะรัง ต.ตะลูโบ๊ะ ม.2 อ.เมืองจงปัตตานี ได้ทำบุญครบ 7 วัน มีเพื่อนบ้าน ผู้นำศาสนาและประชาชนมาร่วมรับประทานอาหาร และอ่านคิมภีร์อัลกูรอ่านให้กับผู้เสียชีวิต เป้นจำนวนกว่า200 คน ซึ่ง ครอบครัวของนูรฮาซัน มีอาการดีขึ้นคลายกังวล และไม่ยอมพูดกับผู้สื่อข่าว แล้ว บอกว่า ทุกคนหนีความตายไม่พ้น จะตายเร็วหรือตายช้า และไม่มีใครรู้จะตายเมื่อไหร่    และ เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 สค พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉกงปัตตานี ร่วมกันสนธิกำลังทั้งทหาร ตำรวจ และอาสารักษาดินแดน กว่า 60 นายกระจายกำลัง เข้าปิดล้อมตรวจค้นในหมู่บ้าน พื้นที่เป้าหมายรวม 4 จุด คือใน พื้นที่ ม.6 บ้านจือแรบองอ จำนวน 1 จุด   และ   บ้านพัก ผอ.ศูนย์ตาดีกาบ้านแบรอจะรัง  และอุสตาส์ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่ง  และบ้านผู้นำศาสนาในพื้นที่ และ ศูนย์ตาดีกา   จำนวน 3 จุด  พื้นที่ ม.2 บ้านแบรอจะรัง ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี   ซึ่งพื้นที่ที่เป็นเป้าหมาย เนื่องจากว่า เป็นผู้สนิทสนมกับ นายนายนูรฮาซัน   อาแว  ที่ถูก จนท.วิสามัญ หลังปล้นรถ      จากการตรวจค้นบ้านพักของครูใหญ่  ซึ่งอยุ่ห่างจากบ้านของนายนูรฮาซัน  เพียง 50เมตร ประกอบกับสนิทสนมกับ นายนูฮาซัน  ช่วงที่อยู่ในโรงเรียน จึงนำโต๊ะอีหม่ามในพื้นที่มาเป็นพยาน เข้าตรวจค้น บ้านพักครูใหญ่  จากการตรวจค้น ได้ยึดหลักฐานไปตรวจสอบ ประกอบด้วย ตราประทับของโรงเรียน เอกสารบางส่วน  คอมพิวเตอร์ และสมุดธนาคารกรุงไทยสาขาปัตตานี ทำการยึดตรวจสอบ พร้อมทั้ง  ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นครูใหญ่ และเพื่อนบ้านรวม 4 คน เพื่อเข้าศูนย์ซักถาม ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จงปัตตานีส่วน เป้าหมายอื่นๆบางพื้นที่ไม่พบเป้าหมาย แต่ได้แกะรอยตามสายข่าวที่แจ้งมา โดยคงตรึงกำลังตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกดดดันกลุ่มคนร้ายดังกล่าว   พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า จาการสอบสวน ว่าทำไมผู้เสียชีวิต ถึงก่อเหตุ  สอบถามทั้งครอบครัว และคนใกล้ชิด ทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป้นคนดี เคร่งศาสนา  ตั้งใจทำงาน  เป้นที่ยอมรับในหมู่บ้าน  บางคนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทราบว่าสาเหตุ คือมีแรงจูงใจจากความเชื่อผิดๆ และถูกจ้างวาน จากคนที่อยู่แวดล้อมบางคนรวมทั้ง ที่ควบคุมตัววันนี้ เป้นครูใหญ่  มีการประชุม มีการประสานงาน กับผู้เสียชีวิต คาดว่าน่าจะจ้างวานไปก่อเหตุ  ซึ่งเขาให้ภาคเสธ ก็ต้องใช้กฎอัยการศึก เชิญตัวไปให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็ต้องปล่อยตัวไป          จากผลการปฏิบิติการไล่ล่ากลุ่มคนร้าย  1 อาทิตย์ที่ผ่านมา  เราควบคุมตัวตามกฏอัยการศึกมาแล้ว 4 คน  และเชิญตัว  6 คน(ปล่อยตัว2 เหลือ 4 คน) จากการซักถามให้ข้อมูลที่เป้นประโยชน์สามารถขยายผลได้  แต่บางคนยังให้การภาคเสธว่ามีส่วนร่วม บางคนยอมรับว่ามีส่วนรู้เห็น   ส่วนวันนี้ควบคุมได้อีก 4 คน  รวมทั้งหมด  12 คน   ผบ.ฉก.ปัตตานีเปิดเผยอีกว่า  ส่วนนายมะกอซี แนปิแน และ นาวสาวแมะสง เจะแต บ้านเลขที่ 37/3 ม.6 ต.ยาบี อ.หนองจิก จงปัตตานี ซึ่งเป้นผู้เสียหาย ที่ถูกคนร้ายปล้นรถยนต์ขณะกำลังจะไปซื้อปลา ที่บ้านบราโอ ม.1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในวันที่ 16  สค. และคนร้ายไปปล้นที่ องนาทวี จ.สงขลานั้น  เมื่อนำทั้งสองมาสอบสวน  เมื่อแยกสอบสวน ปรากฏว่าให้การน่าพิรุธ และน่าสงสัย ให้การวกวน จึงได้ตวบคุมตัวเพื่อสอบสวนขยายผลและให้การเป็นประโยชน์มากพลตรีจตุพร  กล่าวอีกว่า  คดีนี้เริ่มกระจ่างมากขึ้นทำให้มีความมั่นใจในการต่อตามกลุ่มคนร้าย  โดยแบ่งงานเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ปฏิบัติการปล้น กับกลุ่มที่สร้างแรงจูงใจให้ก่อเหตุ       สำหรับกลุ่มปฏิบัติการปล้น แบ่งอีก 3 กลุ่ม คือปล้น ปลาครั้งแรก   2   ปล้นรถที่ เต็นส์ และกลุ่มประกิบระเบิด   ซึ่ง 3 กลุ่ม ได้เจาะลึกไปอีกแต่ละกลุ่ม   คือกลุ่มปฏืบัติการปล้นรถคือ กลุ่มมาหามะ สะอิ และพวก   ส่วนกลุ่มที่ประกอบระเบิดคือ รอซาลี กับบูคอลี หลำโสะ   โดยได้หลักฐานจากดีเอ็นเอที่พบที่รถก่อเหตุ  จนสามารถออกหมายจับ   ขณะนี้กำลังอยุ่ระหว่างติดตามและค้นหาความจริงอยู่ว่า กลุ่มที่ประกอบระเบิด นำไปประกอบที่ไหน เคลื่อนย้ายอย่างไร  เอเป็นประโยชน?ในคดี และ เป็นประโยชน?ในการที่เราจะต้องป้องกันไม่ให้เหตุการร์เกิดซ้ำอีก   ขณะนี้การติดตามคนร้ายมีความมั่นใจมากขึ้นปาเรซ/ปัตตานี