ร่วมแถลงการจับกุม นายลาว ยอง ยี (Mr.Lau Yong Chee) อายุ 35 ปี และนายชาง ไว ยิน (Mr.Chan Wai Yin) อายุ 49 ปี ทั้คู่สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักรวม 200 กิโลกรัม , รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ป้ายทะเบียนมาเลเซีย WUR 4693 , หนังสือเดินทาง 2 เล่ม , ธนบัตรสกุลริงกิต รวม 39,000 ริงกิต สร้อยคอทองคำ บัญชีธนาคาร นาฬิกาข้อมือ และทรัพย์สินมีค่าจำนวนหนึ่ง จับกุมได้ที่บริเวณถนนกาญจนวนิช ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา
พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดชาวมาเลเซีย ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จ.สงขลา โดยเข้าพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใน ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา จึงประสานตำรวจ บช.ปส. , ตชด.และเจ้าหน้าที่หน่วยดีอีเอ สหรัฐอเมริกา วางแผนสืบสวนติดตามเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ จึงพบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาทั้งสองราย ตามที่รับได้แจ้งข้อมูล โดยขับรถยนต์คันดังกล่าวแวะจอดที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.พื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา จากนั้นได้ขับไปตามถนนกาญจนวนิช ก่อนจะถึงด่านตรวจ สภ.คลองแงะพ.ต.อ.จิรภพ กล่าวต่อว่า หลังจากรถคันดังกล่าวกำลังเปลี่ยนเส้นทาง เจ้าหน้าที่ซึ่งสะกดรอยติดตาม ได้เข้าสกัด และแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่ผู้ต้องหาทั้งสองกลับทิ้งรถยนต์แล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมทั้งสองไว้ได้ จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบยาไอซ์ซุกซ่อนไว้ในกระสอบ รวม 7 กระสอบ โดยมีการบรรจุยาไอซ์ดังกล่าวใส่ในถุงชาจีน น้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม รวม 200 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
รอง ผบก.ป.กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลกลอบขนยาไอซ์ของกลางดังกล่าวเพื่อไปส่งลูกค้าในประเทศมาเลเซีย โดยอ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเนื่องจากปริมาณยาไอซ์ที่มีการลักลอบขนล็อตนี้มีจำนวนมาก จึงน่าจะมีการลอบขนมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลการไปยังแหล่งที่มา รวมทั้งปลายทางที่จะมีการนำส่งยาไอซ์ดังกล่าว โดยประสานการทำงานร่วมกับ บช.ปส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตำรวจประเทศมาเลเซีย เกี่ยวกับขบวนการลอบค้ายาเสพติดครั้งนี้ ตลอดจนประสานงานกับ ปปง.เพื่อยึดทรัพย์จากการกระทำความผิดด้วย
พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับมูลค่าของยาไอซ์ล็อตนี้ หากหลุดรอดไปยังประเทศมาเลเซีย หรือประเทศที่ 3 จะมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 10 เท่าตัว หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนการลักลอบขนในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา นั้น ขณะนี้ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลจากพยานหลักฐานต่างๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ส่วนจะมีคนไทย หรือบุคคลเกี่ยวข้องกับขบวนการอีกหรือไม่ขอยังไม่เปิดเผยข้อมูลโดยยืนยันว่าหากพบความเชื่อมโยงก็จะดำเนินการขยายผลต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า สำหรับการจับกุมยาไอซ์ของกลางนับว่าเป็นล็อตใหญ่ที่มีการสืบสวนจับกุม โดยดำเนินการร่วมกันหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนข้อมูลของ บช.ปส.เท่าที่เคยมีการจับกุมพบลักษณะบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ถุงชาจีน ซึ่งมีแหล่งที่มาจากกลุ่มว้าเหนือตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยทางชุดสืบสวนได้ติดตามความเคลื่อนไหวและสกัดกั้นจับกุมอย่างต่อเนื่อง