พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ สว.กก1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ทำการจับกุมตัว นายเดช บังทัด อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 ม.9 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้วที่ จ.146/2560 ลงวันที่14 ก.ค. 2560 ในความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณริมถนน คลองลำเจียก แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณเดือนเมษายน ที่ผ่านมา นายเดช ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเดิมทีเป็นโบรคเกอร์บริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้มีพฤติกรรมเข้าไปทำทีติดต่อกับทางผู้ประกอบการโรงสีแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก่อนจะแอบอ้างตนเองว่าเป็นนายหน้ารับซื้อข้าว เพื่อไปส่งขายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ โดยตกลงกันว่า เมื่อสามารถขายข้าวได้แล้วจะนำเงินมาจ่ายค่าข้าวคืนให้กับผู้ประกอบการโรงสีผู้เสียหายรายนี้ ทำให้ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ ยอมนำข้าวจำนวน 2,000 ตัน มูลค่า 20 ล้านบาท มาส่งให้กับนายเดช ผู้ต้องหารายนี้ไปขายต่อ
กระทั่งต่อมาเมื่อนายเดช สามารถขายข้าวของผู้เสียหายได้แล้ว กลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมนำเงินค่าข้าวมาจ่ายคืนให้กับตามที่ตกลงกันไว้ กระทั่งเมื่อถูกทวงถามถึงเงินค่าข้าวบ่อยครั้ง จึงได้มีการตกลงกันว่าจะยอมชำระเงินค่าข้าวคืนให้กับผู้เสียหาย แต่ขอจ่ายเป็นเช็ค กระทั่งเมื่อถึงกำหนดเวลานำเช็คไปขึ้นเงิน ปรากฏว่า เช็คใบดังกล่าวกลับไม่มีเงินอยู่ในบัญชี ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ที่ สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ดังนั้น จึงได้นำกำลังเข้าทำการติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายเดช ให้การรับสารภาพว่า ตนเองจบการศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยของรัฐฯ ชื่อดังแห่งหนึ่ง กระทั่งต่อมาภายหลังเรียนจบ จึงได้มาประกอบอาชีพเป็นโบรคเกอร์ในบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังหลายแห่ง ก่อนจะอาศัยความรู้ด้านธุรกิจทำอาชีพเสริมเป็นนายหน้าค้าข้าวส่งขายโรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ที่ผ่านมาเคยติดต่อค้าข้าวให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ได้หลายครั้ง จึงทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ
จนกระทั่งกรณีล่าสุด ได้ไปตกลงกับผู้เสียหายว่า จะนำข้าวไปขายให้จำนวน 2,000 ตัน ภายในระยะเวลา 6 เดือน แต่ระหว่างนั้น กลับนำเงินที่ขายข้าวของผู้เสียหาย ไปใช้จ่ายส่วนตัวและเที่ยวเตร่จนหมด จึงไม่รู้ว่าจะนำเงินมาใช้คืนได้อย่างไร ดังนั้น จึงได้วางแผนออกอุบายจ่ายค่าข้าวคืนให้เป็นเช็คดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายนี้ ยังพบว่า เคยถูกดำเนินคดี ยักยอกทรัพย์ ในสมัยที่นายเดช ทำงานเป็นพนักงานเบิกถอนเงินสดของธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี แต่กลับวางแผนยักยอกเงินจากธนาคารไปเป็นเงินถึง 4.5 ล้านบาท เมื่อปี 2554 ในพื้นที่ของ สภ.คลองหลวง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป