svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ศรีสุวรรณ" รับเป็นบทเรียน เจอคุก 14 เดือน ปรับ 7 แสน ละเมิดอำนาจศาล

21 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลปกครองสูงสุด สั่งลงโทษคุก 14 เดือนปรับ 7 แสน ศรีสุวรรณ นายกสมาคมต้านโลกร้อน เขียนคำอุทธรณ์คดีเสียดสีตุลาการปฏิบัติหน้าที่ เข้าเคสละเมิดศาลรวม 14 คดี แต่ศาลยังปรานีหลังเจ้าตัวสำนักผิดให้รอลงอาญา 3 ปี เจ้าตัว ระบุ ยังไม่ถอยเรื่องช่วยชาวบ้าน ส่วนศาลลงโทษก็ตามครรลอง

ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 21 ส.ค.60 เวลา 11.00 น. ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงและมลภาวะทางอากาศ ในบริเวณพื้นที่โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ใช้คำและข้อความอันมีลักษณะเสียดสีการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ในการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาคดีที่นายศรีสุวรรณ ได้ยื่นฟ้อง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.รวม 14 คดี ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีของนายศรีสุวรรณ
โดยศาลปกครองสูงสุดซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนอุทธรณ์ พิจารณาแล้วเห็นว่า ถ้อยคำในคำอุทธรณ์ทั้ง 14 คดี มีลักษณะเสียดสีการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ซึ่งข้อความดังกล่าวทั้งหมดมิใช่การวิจารณ์การพิจารณาหรือการพิพากษาคดีของศาลปกครองโดยสุจริตด้วยวิธีการทางวิชาการ แต่เป็นการเสียดสีการปฏิบัติหน้าที่และกล่าวหาใส่ความให้ขาดความน่าเชื่อถือ เสื่อมเสียงชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยนายศรีสุวรรณ เป็นผู้จัดทำและลงลายมือชื่อในคำอุทธรณ์ดังกล่าวทั้งหมด 14 คดี จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอันเป็นการละเมิดอำนาจศาล
แม้ในเวลาต่อมานายศรีสุวรรณ จะได้ยื่นคำแถลงว่าได้สำนึกในการกระทำ แต่ก็เป็นคำแถลงที่ได้ยื่นต่อศาลภายหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งลงโทษนายศรีสุวรรณ กรณีละเมิดอำนาจศาลอีกคดีหนึ่งแล้ว ซึ่งนายศรีสุวรรณ ยอมรับว่าจะมิให้เกิดความผิดพลาดทำนองนี้อีก แต่ก็มิได้ดำเนินการแก้ไขคำอุทธรณ์ให้เหมาะสมภายหลังจากที่ทราบว่าอาจเป็นการละเมิดอำนาจศาลได้
ดังนั้นการที่นายศรีสุวรรณ ยื่นคำอุทธรณ์ทั้ง 14 คดีคัดค้านคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นด้วยถ้อยคำที่รุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาล จึงสมควรลงโทษสถานหนักทุกคดี โดยให้เรียงกระทงลงโทษ ซึ่งองค์คณะเจ้าของสำนวนอุทธรณ์เห็นควรให้มีคำสั่งให้จำคุกนายศรีสุวรรณ ฐานละเมิดอำนาจคดีละ 1 เดือนและปรับคดีละ 50,000 บาท แต่โทษจำคุกศาลเห็นควรให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี โดยศาลให้บวกโทษจำคุกคดีเดิม เข้ากับโทษจำคุกในทุกคดีวันนี้ด้วย แต่เนื่องจากเป็นการลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาล ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ม.65 (3) ซึ่งกฎหมายกำหนดให้การสั่งลงโทษต้องให้องค์คณะอื่นที่ไม่ใช่องค์คณะพิจารณาคดีนั้นเป็นผู้สั่งลงโทษ ดังนั้นจึงได้ส่งสำนวนและความเห็นนี้ให้องค์คณะอื่นพิจารณาลงโทษ
ทั้งนี้องค์คณะซึ่งได้รับมอบให้เป็นผู้พิจารณาและสั่งลงโทษนั้น ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ถ้อยคำในคำอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นการเสียดสีการปฏิบัติหน้าที่ของศาลปกครองให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ถือเป็นการปฏิบัติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล ตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ ม.64 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 (1) ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ลงโทษจำคุกนายศรีสุวรรณ ทุกคดีรวม 14 สำนวนมีกำหนดคดีละ 1 เดือนรวมจำคุก 14 ปี และปรับคดีละ 50,000 บาท รวมปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 700,000 บาท
อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้แถลงต่อศาลว่าได้สำนึกผิดในผลแห่งการกระทำและเข็ดหลาบแล้ว จึงมีเหตุอันปรานีให้รอการลงโทษจำคุกในแต่ละคดีไว้มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.56ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 15.00 น. นายศรีสุวรรณ จึงได้รับการปล่อยตัว ภายหลังเลขานุการส่วนตัว ได้นำเงินจำนวน 700,000 บาท มาชำระค่าปรับต่อศาล ขณะเดียวกันก็มีตัวแทนชาวบ้านซึ่งทราบข่าวก็ได้เดินทางนำเงินมามอบให้นายศรีสุวรรณ เพื่อช่วยชำระเป็นค่าปรับด้วย โดยกรณีละเมิดอำนาจของนายศรีสุวรรณ ถือว่าเป็นคนแรกที่ถูกควบคุมในห้องควบคุมตัวของสำนักงานศาลปกครอง และเป็นคนแรกที่มีกรณีละเมิดอำนาจเยอะมากที่สุดถึง 14 คดี
ขณะที่ นายศรีสุวรรณ นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ถือเป็นบทเรียนที่ได้ช่วยเหลือคดีของชาวบ้าน ซึ่งการเขียนคำอุทธรณ์ได้ไปก้าวล่วงศาลปกครองชั้นต้นโดยก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าศาลจะมีคำสั่งลงโทษหนักขนาดนี้จึงไม่ได้ตั้งตัวมาก่อนทำให้ไม่สามารถที่จะนำเงินมาชำระได้ทันที จึงต้องถูกควบคุมตัวอยู่ระยะหนึ่งก็ใจแป้วเหมือนกัน แต่ก็ได้ญาติๆช่วยเหลือและชาวบ้านที่ทราบข่าวก็ได้ขอที่จะมามีส่วนร่วมช่วยเหลือเรื่องของค่าปรับที่ต้องชำระด้วย
อย่างไรก็ตามนายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า คงไม่ถอยเรื่องการช่วยชาวบ้าน เพราะการที่ศาลลงโทษนั้นก็เป็นตามครรลองตามอำนาจที่ศาลมี แต่ขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านที่เดือดร้อนอีกจำนวนมากก็จะทำหน้าที่ช่วยเหลือต่อไป

logoline