ชาวบ้านกลัว บั้งไฟลาวตกข้ามโขง ทำชาวบ้านหนีตาย

เมื่อบ่ายของวันที่ 20 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดมีบั้งไฟยักษ์จากฝั่งลาวพุ่งขึ้นสูง ข้ามโขงมาตกลงหลังคาบ้านของราษฎรที่มีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยตามแนวชายแดนริมฝั่งโขงบ้านนาสีนวน ม 1.ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร และวัดทุ่งเว้าอยู่ บ้านท่าไคร์ ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร บั้งไฟยังตกลงตามถนนและนาข้าวของราษฎรหลายจุดที่กำลังดำนากันอยู่ก็เกิดมีบั้งไฟยักษ์จากไหนพุ่งลงกลางทุ่งนาวิดโดนชาวบ้านที่กำลังก้มหน้าดำนากันอยู่ชาวบ้านเกิดหวาดกลัวอันตรายถึงตายจึงพากันกับไปหลบภัยภายในบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน 
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงตรวจสอบตรงจุดเกิดเหตุด้านหน้าวัดทุ่งเว้าพบท่อนบั้งไฟขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ยาว 4 เมตรยังพบเขียนอักษรไทยอยู่ข้างบั้งไฟว่า เทพศิลา 1 สปป.ลาว รวมถึงต้นไม้ไฟขนาดใหญ่ที่นำมาทำเป็นหางบั้งไฟรวมความยาว 10 เมตรที่เขาเรียกว่าบั้งไฟแสนตกลงอยู่หน้าวัดทุ่งเว้า โดยมีรถยนต์หลายคันจอดอยู่ หนึ่งในนั้นมีรถกระบะของนายด่อง โคตรรส ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อบต.นาสีนวน โชคดีที่ไม่มีทรัพย์สินของผู้ใดเสียหายและไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนทางฝั่งลาวก็ยังจุดบั้งไฟตรงจุดเดิมมีพุ่งข้ามมาอย่างต่อเนื่องชาวบ้านได้ยินเสียงบั้งไฟดังขึ้นก็พากันวิ่งเข้าหลบที่กำบังไม่ต่างกับหลบลูกกระสุนปืน 
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบต่อที่บ้านนาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ที่ได้รับแจ้งก็ได้รับความเดือดร้อนถูกบั้งไฟพุ่งข้ามโขงมาจากฝั่งประเทศลาว ทำให้ชาวบ้านตื่นผวาตามที่ชาวบ้านแจ้งมา ซึ่งที่บ้านเลขที่ 55 ม.1 บ้านนาสีนวน ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร มีนางพิ้ง พิกุลศรี เป็นเจ้าของบ้านที่ถูกบั้งไฟตกใส่หลังคาบ้านเล่าเหตุการณ์ว่า ขณะที่นอนดูทีวีกับลูกสาวอยู่ในบ้าน จากนั้นก็มีเสียงดังปานฟ้าผ่าที่บ้านของตน แล้วมีคนตะโกนบอกว่าบั้งไฟตกใส่บ้าน เมื่อออกมาดูก็พบว่าบั้งไฟขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ยาว 4 เมตร ขนาดเดียวกันอยู่บนหลังคาบ้านโดยมีกลุ่มควัน ตนจึงตักน้ำขึ้นไปสาดใส่สกัดไม่ให้ไฟลุกไหม้โชคดีไม่ตกลงตรงกลางบ้าน ตนเองกับลูกสาวที่นอนอยู่ในบ้านคงตายแน่
นางพิ้ง พิกุลศรี ได้เล่าต่อว่าเพิ่งมีชายไทย 2 คนข้ามจากฝั่งลาวมาตามเก็บบั้งไฟที่พุ่งข้ามมาตกอยู่ฝั่งไทย โดยชายไทยทั้งคู่ได้นัดหมายกับนายเถิง แข่งแรง ผู้ใหญ่บ้านนาสีนวน ม.1 ว่าเวลา 17.00 น. จะมาตกลงกันเรื่องเยียวยาให้ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย แต่เวลา 14.00 น. ชายไทย 2 คนก็มาขอเก็บบั้งไฟไปหน้าตาเฉย 
สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่มีเรือหางยาวข้ามไปมาระว่างไทยลาวเป็นประจำจึงทราบว่า บั้งไฟที่จุดนั้นอยู่ที่ บ.ท่าโพ ม.ไซโพทอง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ซึ่งตรงข้ามกับบ้านท่าไคร์ ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ถามว่าบั้งไฟลาวทำไมเขียนอักษรไทยอยู่ข้างบั้งไฟ และบั้งไฟลาวมาตกใส่ฝั่งไทยทำไมคนไทยต้องตามเก็บบั้งไฟคืน ก็ได้รับคำตอบจากผู้รู้จริงว่า คนไทยร่วมกับชาวลาวจัดงานบั้งไฟนอกฤดู.