"วสุ" นายกฯ อบต.บ้านใหม่ พร้อมขึ้นศาล 3 พ.ย. ไต่สวนฟ้อง "ศรีวราห์"

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซ.สีคาม ถ.นครไชยศรี วันที่ 18 ส.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้รับคดีนายวสุ ผันเงิน นายก อบต.บ้านใหม่ จ.นนทบุรี ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นจำเลย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีที่ นายวสุ ถูกกล่าวหาคดีอาญา ไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ หลังจากนายวสุ ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยศาลพิจารณาคำฟ้องเเล้ว มีความเห็นสมควรให้รับคำฟ้องไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 3 พ.ย.นี้
ทั้งนี้นายวสุ ผันเงิน นายก อบต.บ้านใหม่ เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 พ.ย.ซึ่งนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ตนพร้อมจะเดินทางไปไต่สวนด้วยตนเอง ซึ่งศาลนัดเวลา 09.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลเคยแจ้งให้แก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดคำฟ้องให้สมบูรณ์ถึง 3 ครั้งก่อนที่จะนัดไต่สวนมูลฟ้อง
นายวสุ นายก อบต.บ้านใหม่ ยังกล่าวถึงที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบและใช้เอกสารปลอม,รับรองเอกสารเท็จและข้อหาอื่นรวม 3 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,162 จากกรณีมีการเซ็นเอกสารรับรองเบิกค่าใช้จ่ายโครงการอบรมในแม่ฮ่องสอนปี 59 ด้วยว่า อัยการได้ยื่นฟ้องคดีตน และน.ส.มณฑา เจริญสุขสุวรรณ ปลัดอบต.บ้านใหม่ อ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี กับเจ้าหน้าที่อีก 1 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ แล้ว และศาลให้ประกันตัวคนละ 400,000 บาทโดยศาลนัดจะสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 4 ก.ย.นี้ ซึ่งตนก็พร้อมจะไปศาลต่อสู้คดี ที่ผ่านมา สตง.ที่ตรวจสอบบัญชีการใช้จ่ายที่มีกล่าวหาพวกตนนั้น ก็มีความเห็นให้ส่งเงินที่ใช้ในโครงการคืนทั้งหมดกว่า 200,000 บาท ตนก็พร้อมจะคืนเพื่อไม่ให้รัฐเสียหาย ทั้งที่การเบิกจ่ายในส่วนของคนขับรถที่เห็นว่าเป็นความผิดมูลค่าเบิกจ่ายเพียง 12,000 กว่าบาท ส่วนข้อกล่าวหาตนปฏิบัติหน้าที่มิชอบและปลอมเอกสารนั้น ตนพร้อมต่อสู้พิสูจน์เจตนาการลงชื่อผู้ร่วมเดินทางไปอบรมมิใช่การลงชื่อแล้วเพื่อจะทำให้ราชการเสียหายในงบประมาณ เพราะเมื่อมีผู้ร่วมอบรมบางคนไม่ได้ไป ก็ใช้งบส่วนนั้นทดแทนให้คนขับรถซึ่งมีหน้าที่อยู่แล้ว มิใช้การให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องร่วมเดินทางไปโดยมิชอบ เรื่องนี้ตนอยากให้มีมาตรฐานในการแจ้งข้อกล่าวหาหรือสอบสวน เพราะเท่าที่ตนทราบว่า สตง. ก็เคยมีคำสั่งให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นคืนเงินราชการแล้วไม่มีการดำเนินคดี แต่กรณีของตนตั้งข้อสังเกตกลับมีการสอบสวนคดีอาญากล่าวหาโดยตำรวจ ก่อนที่ สตง. มาตรวจสอบ ทั้งที่ขั้นตอนจะต้องเริ่มที่ สตง. ตรวจสอบก่อนแล้วส่งให้ ป.ป.ช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับดำเนินการทางอาญาถ้าเห็นว่าเป็นความผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมีคำสั่งให้รับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง ฝ่ายโจทก์ต้องนำพยานบุคคลให้ศาลไต่สวนเพื่อให้ศาลพิจารณาว่าคดีมีมูลเพียงพอที่จะฟังได้ว่ามีการกระทำที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายตามฟ้องหรือไม่ แล้วศาลจึงจะมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีไว้เพื่อมีคำพิพากษาต่อไป ซึ่งระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องนี้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาสามารถแต่งตั้งทนายความเพื่อซักค้านพยานโจทก์ได้