svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดตัว "ทีมปัตตานี-สะบ้าย้อย" ปล้นปิคอัพทำคาร์บอมบ์

18 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ฉายภาพกลุ่มที่ก่อเหตุปล้นรถกระบะ 7 คัน เพื่อนำไปทำคาร์บอมบ์สร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ โดยบอกว่ารู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เป็นการผสานความร่วมมือกันระหว่าง "ทีมปัตตานี" กับ "ทีมสะบ้าย้อย" ใช้กำลังคนประมาณ 15 คน

ผู้ที่แถลงความคืบหน้าของคดีทั้งหมดในวันนี้ คือ พลตรี จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี "ล่าความจริง" นำมาอธิบายให้คุณผู้ชมเข้าใจได้ง่ายๆ คือกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปล้นรถปิคอัพ และนำไปบรรทุกระเบิดเพื่อทำคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น มาจากการสนธิกำลังกันระหว่างผู้ก่อเหตุรุนแรง 2 กลุ่ม คือ "ทีมปัตตานี" กับ "ทีมสะบ้าย้อย"
"ทีมปัตตานี" จะแยกย่อยเป็นกลุ่มของ นายซอบือรี เจ๊ะหะ กับ นายมาหามะ สะอิ เคลื่อนไหวอยู่ในอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี กลุ่มนี้พาพวกไปปล้นรถมาสด้า สีเทา จากสองสามีภรรยาที่อำเภอยะรัง แล้วส่งรถต่อให้กลุ่มของ นายมะนาเซ ไซดี ที่เคลื่อนไหวอยู่ในอำเภอเมืองปัตตานี นำไปเป็นพาหนะในการปล้นรถอีก 6 คันที่ วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์อำเภอนาทวี จังหวัดปัตตานี
กำลังคนที่ใช้ในการปล้นรถ ใช้กำลังของ "ทีมสะบ้าย้อย" นำโดย นายรอซือดี บือแน เป็นแกนนำ ซึ่งทีมสะบ้าย้อยมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับ นายมะนาเซ เมื่อปล้นรถได้แล้ว ก็ขับไปรับระเบิดจาก นายบูคอรี หลำโส๊ะ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่บริเวณรอยต่อจังหวัดสงขลา กับปัตตานี และเป็นมือประกอบระเบิด เมื่อรับระเบิดแล้วก็กระจายกันไปก่อเหตุ

พลตรี จตุพร บอกด้วยว่า ฝ่ายความมั่นคงทราบความเคลื่อนไหวของคนร้ายกลุ่มนี้ประมาณ 1-2 วันก่อนเกิดเหตุ จึงซ้อนแผนและจัดกำลังลงพื้นที่เสี่ยงเพื่อเฝ้าระวัง โดยประสานกับกองกำลังภาคประชาชน ทำให้สามารถจำกัดพื้นที่เคลื่อนไหวและปฏิบัติการของคนร้ายกลุ่มนี้ได้ จนต้องจอดรถทิ้งเกือบทั้งหมด ส่วนรถที่นำไปทำคาร์บอมบ์ก็ไม่สามารถเข้าไปก่อเหตุในเขตเมืองได้
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของทีมล่าความจริง พบว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุปล้นรถไปทำคาร์บอมบ์ที่เจ้าหน้าที่เอ่ยชื่อมาเกือบทั้งหมดนั้น ล้วนแต่เคยมีหมายจับในคดีสำคัญๆ มาก่อนทั้งสิ้น เช่น นายบูคอรี หลำโส๊ะ กับ มะนาเซ ไซดี ถูกออกหมายจับในคดีคาร์บอมบ์บิ๊กซี ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม, นายซอบือรี เจ๊ะหะ ถูกออกหมายจับเกือบทุกคดีใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอยะรัง และ อำเภอมายอ เช่น คดียิงทหารเสียชีวิต 3 นาย กลางตลาดนัดในอำเภอมายอ เมื่อต้นเดือนมีนาคม, คดียิงครูสุณิสา บุญเย็น ครูกศน. เสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ส่วน นายมาหามะ สะอิ เกี่ยวข้องกับคดียิงครูสุณิสา และยังถูกออกหมายจับในคดียิงสาวท้อง 8 เดือนที่ตลาดปาลัส อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วด้วย

เป็นที่น่าสังเกตว่า บุคคลเหล่านี้เคยก่อคดีใหญ่ๆ หลายคดี และเจ้าหน้าที่ก็รู้ข้อมูลเป็นอย่างดี มีประกาศจับขนาดใหญ่ตามถนน ด่านตรวจ และสี่แยกแทบทุกแห่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงจับกุมบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ สายข่าวล่าความจริงบอกว่า ภรรยาของคนเหล่านี้บางคนตั้งครรภ์ด้วย แสดงว่าพวกเขากลับบ้าน หรือมีจุดนัดพบกันกับภรรยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ทราบความเคลื่อนไหว จึงไม่สามารถจับกุมได้
ข้อสงสัยที่ผู้ต้องหาคดีสำคัญยังคงหลบหนีลอยนวลอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้ได้นั้น พลตรี จตุพร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี อธิบายว่า เป็นเพราะคนเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ตามบ้านแนวร่วม และย้ายที่พักไปเรื่อยๆ ขณะที่บางส่วนก็หลบหนีอยู่ตามเกาะแก่งริมทะเล และบนเรือประมง เพราะจังหวัดปัตตานีและสงขลาบางอำเภอเป็นพื้นที่ติดทะเล
สำหรับความคืบหน้าทางคดี หน่วยในพื้นที่ยังไม่ระบุว่าจับกุมใครได้บ้างหรือไม่ แต่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง บอกเองเลยว่าขณะนี้รู้ตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดแล้ว และจับกุมได้แล้ว 1 คน อยู่ระหว่างออกหมายจับอีก 4 คน เป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ไปร่วมพูดคุยเพื่อสันติสุข

logoline