“ที่ผ่านมา แม่ก็ติดต่อกับเขา โดยหลังจากเกิดเหตุน้องพลอยหายตัวไป 2 วัน เขาได้โทรศัพท์มา ขณะที่เขาติดต่อหาแม่ เขายังทำงานอยู่ แต่เขาฆ่าน้องแล้ว 3 ปีกว่า วันนี้แม่พาน้องมาให้ดูคนที่บอกว่ารักนักรักหนา เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่สามารถอโหสิกรรมให้ได้ เป็นใครๆ ยกโทษให้ได้หรือไม่ มันกระทันหันมาก แม่จะไม่ให้เขาไปกราบขอขมาน้อง แต่ให้เป็นบาปติดตัวไปตลอดชีวิต” นางพัชรี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
มารดาผู้สูญเสียรายนี้ กล่าวอีกว่า นายพลกฤตต้องมากราบเท้าขอขมาตน แต่ก็ไม่ให้อภัยกับสิ่งที่นายพลกฤตได้กระทำลงไป ตนคิดว่าน้องพลอย ก็คงต้องการแบบนั้น ที่ผ่านมานายพลกฤต ให้การอย่างไรบ้าง ตนไม่ทราบ แต่คนเลือดเย็นแบบนี้ คิดได้ขนาดนี้ ใครจะเชื่อคำพูดเขา คนหนึ่งคน ยาง 4 เส้น และสถานที่ลงมือก่อเหตุ มันลำบากยากเย็นหรือไม่ เขาน่าจะทำคนเดียวได้หรือไม่
“นายพลกฤต อ้างว่าน้องพลอย กระโดดลงจากรถเอง ทั้งๆที่ รถเขามีระบบล็อกประตู แต่ถ้าน้องพลอย จะกระโดดจริงอย่างที่เขาว่า แม่ก็เชื่อ เพราะน้องพลอยก็เหมือนแม่ คือเป็นคนสู้คน ไม่ยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนตัวแล้วไม่ทราบว่าเขาทรมานน้องพลอยด้วยหรือไม่ แต่ที่แน่ชัดก็น่าจะใช้มือบีบคอ เพราะที่ผ่านมาเพื่อนน้องพลอย เคยบอกว่า เวลาที่ทั้งสองคนทะเลาะกัน นายพลกฤต มักจะชอบใช้มือบีบคอลูกสาว” นางพัชรี กล่าวและว่า สำหรับคนที่ช่วยเหลือนายพลกฤต มาตลอดระยะเวลา 3 ปี ต้องถือว่าเป็นคนที่ไร้มนุษยธรรม รู้ว่านายพลกฤต กระทำความผิด แต่ก็ยังช่วยปกป้อง แต่ตนก็เชื่อว่าเขาหนีเวรกรรมไปไม่พ้น ในใจเขาเองก็ต้องรู้ว่าเกิดอะไร ตนเชื่อว่าความยุติธรรมต้องมีจริง ตำรวจจะช่วยตนได้
นางพัชรี กล่าวว่า ประมาณเดือนกว่าหลังเกิดเหตุ ตนฝันว่าน้องพลอยจมน้ำ แล้วยกแขนร้องขอให้แม่ช่วย แม่ก็สะดุ้งตื่น แล้วก็รู้ทันทีว่าน้องอยากกลับบ้าน พอไปดูที่เกิดเหตุวันนั้น มันก็มีน้ำจริงๆ ครั้งแรกที่น้องเสีย น้องก็มาบอก มากราบเท้าแม่ ฝากกราบเท้าพ่อ บอกว่าน้องอยู่ไกล มาไม่ได้ แต่คิดถึง แล้วทุกอย่างก็เป็นเรื่องจริง น้องอยู่ไกลมาไม่ได้ นี่คือเรื่องจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่มารอพบหน้านายพลกฤต นั้น นางพัชรี ได้วางกรอบรูปแล้วจุดธูปที่เตรียมมา ก่อนจะร่ำไห้บอกกล่าวกับบุตรสาวว่า วันนี้แม่ได้มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมคืนให้กับลูกสาวแม่แล้วนะ.