svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

จับตา 25 ส.ค. นี้ ‘คดียิ่งลักษณ์’ อาจฉายเดี่ยว

15 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จับตา 25 ส.ค นี้ คดีบุญทรงกับพวก ในคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี มีโอกาสที่จะเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปมีมากกว่า คดียิ่งลักษณ์ ในคดีจำนำข้าว เนื่องจากจำเลยมีหลายคน หากจำเลยมาศาลไม่ครบ ศาลอาจต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี   ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และคดีีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์  อดีต รมว. พาณิชย์ กับพวก รวม 28 คน (แต่หนีคดี 2 คน ปัจจุบันจำเลยจึงเหลือ 26 คน)  ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ พร้อมกันทั้งสองคดี เนื่องจากทั้งสองคดีมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกันนั้น   

แหล่งข่าวซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษา ระบุว่า  แม้ว่าทั้งสองคดีศาลจะนัดอ่านคำพิพากษาคดีพร้อมกัน แต่เมื่อถึงวันนัดอ่านคำพิพากษา โอกาสที่คดีนายบุญทรงกับพวก จะเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปมีมากกว่า คดี น.ส. ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากจำเลยในคดีนายบุญทรง มีหลายคน ขณะที่คดีของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ จำเลยมีเพียงคนเดียว  พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542  มาตรา 32  ระบุว่าในกรณีที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา แต่จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา ให้ศาลเลื่อนการอ่านไปและออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษาและเมื่อได้ออกหมายจับแล้ว ไม่ได้ตัวจำเลยมาภายใน 1 เดือน นับแต่วันออกหมายจับให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้และให้ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาแล้ว   ดังนั้นในทางปฏิบัติที่ผ่านมาในคดีที่มีจำเลยหลายคน หากจำเลยมาไม่ครบในวันนัดอ่านคำพิพากษาแม้เพียงคนเดียว ศาลก็จะออกหมายจับจำเลยคนที่ไม่มาฟังคำพิพากษาแล้วเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป  1 เดือน แล้วค่อยนัดอ่านคำพิพากษาครั้งที่ 2  ซึ่งเมื่อถึงวันนัดอ่านคำพิพากษาครั้งที่ 2 ศาลก็จะอ่านคำพิพากษาเลยแม้ว่าจะมีจำเลยมาไม่ครบในวันนัดอ่านคำพิพากษาก็ตาม โดยศาลจะออกหมายจับจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษา เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำตัวมาฟังคำพิพากษาต่อไป  เท่าที่ผมอยู่ในวงการยุติธรรมมานานหลายสิบปี ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นที่ศาลอ่านคำพิพากษาเลยในนัดฟังคำพิพากษาครั้งแรกในกรณีที่จำเลยมาไม่ครบ  ส่วนคดีคุณยิ่งลักษณ์ ถ้า คุณยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นจำเลย มาศาลในวันนัดฟังคำพิพากษา ก็ไม่มีเหตุที่ต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป แม้ว่าทั้งสองคดีหลักฐานจะเชื่อมโยงกันก็ตาม'

แหล่งข่าว ยังกล่าวถึง คดีจำนำข้าวของ  น.ส. ยิ่งลักษณ์  ว่า ในเรื่องเจตนาพิเศษ เป็นเรื่องสำคัญ  ซึ่งเจตนาพิเศษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ โดนฟ้องก็คือ  ได้ละเว้นกระทำ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต  ซึ่งอาจเป็นประเด็นชี้ขาดคดีนี้ได้
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้  น.ส. ยิ่งลักษณ์  ได้ต่อสู้คดีว่า ไม่ได้มีเจตนาพิเศษ ในการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตหรือทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดย น.ส. ยิ่งลักษณ์ อ้างถึงกรณีที่ี่ ป.ป.ช. และ สตง. มีหนังสือท้วงติงมายังรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ว่า ปปช.และ สตง.ไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้ฝ่ายบริหารยับยั้งหรือยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวได้ แต่อย่างไรก็ตาม  น.ส. ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยละเลยเพิกเฉยในการกำกับและติดตามการปฏิบัติตาม ที่ ป.ป.ช. สตง.ท้วงติง โดยได้ส่งข้อเสนอแนะดังกล่าวให้คณะกรรมการ กขช. และหน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าวฯ และก่อนหน้านั้นได้มีคำสั่ง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นประธาน ดังนั้น การที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์  ส่งเรื่องโดยตรงไปยัง กขช. และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีเรื่องใดที่ละเลย และเมื่อส่งเรื่องไปแล้ว คณะกรรมการและหน่วยงานต่างๆ ย่อมต้องเป็นผู้รับผิดชอบหากมีเรื่องใดเห็นค้านก็จะต้องนำเสนอกลับมาตามสายงานบังคับบัญชา แต่ปรากฏว่าไม่มีหน่วยงานใดเห็นค้านและเสนอให้ยกเลิก หรือยุติโครงการรับจำนำข้าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีได้ป้องกันความเสียหาย มีการปรับลดวงเงินรับจำนำจากไม่จำกัด เป็นจำกัดวงเงินการรับจำนำ
 ส่วนในประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่า ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการระบายข้าวจีทูจีนั้น น.ส. ยิ่งลักษณ์ ได้ต่อสู้ว่า ไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในการระบายข้าว การระบายข้าว เป็นงานในระดับปฏิบัติที่มีคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ,รมว.พาณิชย์ ,กรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นวิธีการที่ดำเนินการมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งนี้ในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาล คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดหลักเกณฑ์ และมาตรการในการป้องกันการทุจริตในการระบายข้าวให้เข้มงวดมากขึ้น โดยให้ผู้รับผิดชอบปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ ขั้นตอนซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า ถ้า ตนปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต หรืองดเว้นไม่ป้องกันการทุจริตหรือไม่ป้องกันความเสียหายตามที่โจทก์กล่าวหา หรือ หากตนมีเจตนาทุจริตหรือสมยอมให้ทุจริตแล้ว ตนและคณะรัฐมนตรี จะสร้างหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นดังกล่าวทำไม

นอกจากนี้ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน พ.ย. 2555 ตนได้สั่งการให้ รมว.พาณิชย์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่มีการอภิปราย เรื่องการทำสัญญาซื้อขายแบบจีทูจี แต่ผลการตรวจสอบกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้รายงานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการระบายข้าวและรายงานว่าเป็นการดำเนินการอย่างถูกต้อง แล้วจะถือว่าตนปกปิดการระบายข้าวเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้หนึ่งผู้ใดตามที่โจทก์กล่าวหาได้อย่างไร แสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้มีเจตนาพิเศษ ที่จะปกปิดข้อมูลในการระบายข้าวแบบจีทูจี และเป็นการแสดงว่า ตนไม่ได้สมยอม ให้ผู้ใดกระทำการทุจริตในการระบายข้าว หรือมีการกระทำที่ปกป้องผู้หนึ่งผู้ใด ตามข้อกล่าวหาของโจทก์

logoline