ต่อมาได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคล มีหลักฐานเชื่อได้ว่า ส.อ.พลกฤต วิเศษ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302 ถ.พระพายัพ ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นผู้ลักพาตัว นางสาวพลอยนรินทร์ ไป จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ออกหมายจับ ส.อ.พลกฤต และศาลได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 80/57 ลงวันที่ 7 กรกฏาคม 2557 ในความผิดฐาน พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้กลอุบายหลอกลวง,ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายฯ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปนางพัชรี มารดาของ น.ส.พลอยนรินทร์ ได้ออกติดตามหาตัวบุตรสาว และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหา ตลอดมา
ต่อมา วันที่ 1 สิงหาคม 2560 นางพัชรี พร้อมด้วย นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์
โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. และวันที่ 11 สิงหาคม 2560 ได้ยืนหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหา เนื่องจากเห็นว่าผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการทหาร และเป็นบุตรชายของ นายทหารยศใหญ่ ทำให้หวั่นเกรงจะมีอิทธิพลทำให้คดีล่าช้าและไม่กล้าจับกุมตัวมาดำเนินคดี
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนและ สื่อมวลชนทั่วไป และผู้ร้องเกรงว่าจะถูกผู้มีอิทธิพลข่มขู่ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ เร่งสืบสวนติดตาม จับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว