กองทัพเรือ แจงซื้ออาวุธสหรัฐ เป็นโครงการตั้งแต่ปี 59

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า แม้นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการจัดซื้ออาวุธปล่อยนำวิถี ซึ่งสื่อต่างประเทศตีข่าวว่าใช้งบประมาณราว 872 ล้านบาท ในทำนองไม่รู้มาก่อนว่ามีการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ล็อตนี้ และขอให้ไปถามความชัดเจนจากรองนายกฯ และ รมต.กลาโหม ขณะที่ พล.อ.ประวิตร อ้างว่า ยังไม่มีการจัดซื้ออาวุธตามที่เป็นข่าว

ล่าสุดกองทัพเรือออกมาชี้แจงเรื่องนี้ทั้งหมด ระบุว่า อาวุธปล่อย ฮาร์พูน บล็อค 2 อาร์จีเอ็ม 84 แอล เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีแบบพื้นสู่พื้น ระยะยิงไกลสุด 124 กิโลเมตร หรือ 67 ไมล์ทะเล มีขีดความสามารถในการยิงสนับสนุนภารกิจต่อต้านเรือผิวน้ำ โจมตีเป้าหมายบนบก เช่น พื้นที่ติดตั้งอาวุธป้องกันฝั่ง อาวุธต่อสู้อากาศยาน อากาศยาน พื้นที่อุตสาหกรรม ท่าเรือ และเรือที่จอดทอดสมอในฐานทัพหรือท่าเรือ

โครงการจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีชนิดนี้เป็นของกองทัพเรือ อยู่ในโครงการเสริมสร้างกำลังกองทัพแบบผูกพันข้ามปีงบประมาณ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 โดยมีความมุ่งหมายเพื่อให้เป็น อมภัณฑ์ สำหรับเรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำใหม่ ซึ่งจะเข้าประจำการในปีงบประมาณ 2561

สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีชุดนี้ ถือเป็น อมภัณฑ์ ที่มีเทคโนโลยีและคุณค่าทางยุทธการสูง จึงจำเป็นต้องจัดหา ผ่านทางรัฐบาลสหรัฐ

แผนการจัดหาแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ลูกจริง 2 ลูก หัวฝึก 1 หัว ผูกพันงบประมาณปี 2559-2561 จัดหาเรียบร้อยแล้วกับลูกจริง 7 ลูก ลูกฝึก 1 ลูก อยู่ระหว่างการจัดหา ผูกพันงบประมาณปี 2560 ถึง 2562 แต่จำนวนลูกจริงลดความต้องการลงจาก 7 ลูกเหลือ 5 ลูก มาจากการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น

แถลงการณ์ของสหรัฐในเรื่องนี้ เป็นการเห็นชอบแผนการจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีในส่วนที่สองของไทย วงเงิน 827 ล้านบาทเศษ หรือ 24.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐการที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเห็นชอบแผนการจัดหาเบื้องต้น เพราะจากการจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีชุดนี้ เป็นยุทโธปกรณ์รายการหลักที่มีมูลค่าตามเกณฑ์ที่สหรัฐกำหนด ภายหลังการออกแถลงการณ์ จะเป็นขั้นตอนการนำเข้าสู่สภาคองเกรส หากไม่มีข้อคัดค้านภายใน 30 วัน จะสามารถลงนามในเอกสารความตกลง ได้ ส่วนการส่งมอบ จะดำเนินการภายใน 3 ปี