svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผู้การฯ 191 เตรียมแจ้งข้อหา "อั้งยี่ ซ่องโจร" แก๊งนายพลอุ้มรีด

13 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้การฯ191เตรียมแจ้งข้อหา"อั้งยี่ ซ่องโจร"แก๊งนายพลอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน-ผกก.โคกคราม ระบุชุดสืบเร่งไล่ล่าอีก2คนร้ายที่ยังหลบหนีคาดสัปดาห์หน้าชัดเจน

13 ส.ค.60จากกรณี นายทหารยศพลตรี พร้อมด้วยนายตำรวจระดับพันตำรวจโท และพลเรือน รวม 10 คน ได้ก่อเหตุอุ้มรีดทรัพย์ นายสุรชัย แซ่ย่าง นักธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบิน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ ตำรวจ191 นำกำลังเข้าช่วยเหลือพร้อมสามารถจับกุมจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย ส่วนอีก 2 ราย สามารถหลบหนีไปได้ ตามที่ได้เสนอข่าวแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ ตำรวจ191 เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้เตรียมประสานข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่ซ่องโจร กับกลุ่มผู้ต้องเป็นการเพิ่มเติม เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าว มีลักษณะรวมตัวกันก่อเหตุ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ และมีการวางแผนกันอย่างชัดเจน คาดว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ทางตำรวจเตรียมดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดอีกด้วย เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวในการทำธุระกรรมต่างๆ ว่ามีการโยงใยถึงใครหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า นายทหารยศพลตรี 1 นาย สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย หนึ่งในผู้ต้องหามีพฤติกรรมปล่อยกู้นอกระบบ ในเขตดอนเมืองนั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข้อมูลแล้ว ทั้งนี้ หากพบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริง ก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ขณะนี้ พบว่า ได้หลบหนีไปกบดานในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ใด ซึ่งคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างรัดกุม โดยคดีมีความคืบหน้าไปแล้ว 70-80 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โคกคราม กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า หลังการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์แจ้งความเพิ่มเติม โดยยังคงมีเพียง 2 รายเท่านั้น คือ นักธุรกิจชาวจีนที่ถูกจับกุมในข้อหาปลอมบัตรประชาชนที่ สน.ลาดพร้าว เมื่อปี 2557 และถูกหลอกจนต้องสูญเงินไปกว่า 4 ล้านบาท ส่วนอีกรายเป็นผู้เสียหายชาวจีนเช่นกัน ที่ต้องการมีบัตรประชาชนไทย โดยรายนี้ถูกหลอกให้จ่ายเงินไป 7 แสน 5 หมื่นบาท เมื่อปี 2559 เหตุเกิดในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง

"จากข้อมูลการสืบสวนจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าหากพบว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด สำหรับการติดตามผู้ต้องหาอีก 2 ราย ที่สามารถหลบหนีไปได้นั้น ขณะนี้ทางชุดสืบสวนกำลังเร่งดำเนินการอยู่ คาดว่าจะชัดเจนในสัปดาห์หน้า" ผกก.สน.โคกคราม กล่าว

logoline