สำนักข่าวเนชั่น ประภาศรี โอสถานนท์
10 ส.ค.60- ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 เป็นประธาน โดยได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.)จำนวน 7 ตำแหน่ง โดยพล.อ.อู้ด เบื้องบน ประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่บุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ได้รายงานผลการตรวจสอบต่อประชุมที่ประชุมทั้งในส่วนเปิดเผยและรายงานลับแล้ว ที่ประชุมได้ลงคะแนนเลือกกรรมการคตง. จำนวน 7 คน ประกอบด้วยคือ 1. นางยุพิน ชลานนท์นิวัฒน์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นคตง.ด้านการตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยคะแนน 188 ต่อ 21 ไม่ลงคะแนน 5 2.นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนน 206 ต่อ 4 ไม่ลงคะแนน 4 และ 3. นางอรพิน ผลสุวรรณ์ สบายรูป อ.ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นคตง.ด้านกฏหมาย ด้วยคะแนน 203 ต่อ 8 ไม่ลงคะแนน 3 4.น.ส.จินดา มหัทธนวัฒน์ ที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. เป็นคตง. ด้านบัญชี ด้วยคะแนน 205 ต่อ 6 ไม่ลงคะแนน 3 5.พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็นคตง.ด้านการตรวจสอบภายใน ด้วยคะแนน 201 ต่อ 5 ไม่ลงคะแนน 8 6.นายวีระยุทธ ปั้นน่วม รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นคตง.ด้านการเงินการคลัง ด้วยคะแนน 195 ต่อ 15 ไม่ลงคะแนน 4 และ7.นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการกรรมการ ป.ป.ช. เป็นคตง.ด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการตรวจเงินแผ่นดินด้วยคะแนน 166 ต่อ 36 ไม่ลงคะแนน 12
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมลับเพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน เป็นที่น่าสังเกตว่าใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าปกติถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยเฉพาะกรณีของนายสรรเสริญ ซึ่งสมาชิกสนช.ได้ติดใจถึงการร้องเรียนไปยังสตง.เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเลขาป.ป.ช.ใช้งบประมาณในการจ้างสภาทนายความสูงเกินไป ซึ่งปรากฏว่าจากข้อเท็จจริงเป็นการจ่ายก่อนที่นายสรรเสริญจะมาเป็นเลขาป.ป.ช. ซึ่งส่งผลให้การลงมติของนายสรรเสริญได้รับคะแนนน้อยที่สุด แต่ก็ถือว่าได้รับเลือกเป็นคตง.เนื่องจากผู้ที่ได้รับเลือกจะต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดคือ 125 เสียงขึ้นไป
มติสนช.เห็นชอบ "เข็มชัย"นั่งอสส.
จากนั้นที่ประชุมสนช.ยังได้ลงมติให้ความเห็นชอบให้นายเข็มชัย ชุติวงศ์ รองอัยการสูงสุด เป็นอัยการสูงสุด ด้วยคะแนน 198 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 ทั้งนี้ก่อนการลงคะแนนคณะกรรมการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่บุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุดได้รายงานผลการตรวจสอบในส่วนที่เปิดเผยและรายงานลับ