ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมถนนตัดใหม่ มุ่งหน้าพหลโยธินฝั่งขาเข้า ภายในคลองพบศพเพศหญิง สภาพศพบวมอืดลอยน้ำมาติดกับกองผักตบชวา สวมเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้แขนสั้น สีเขียว กางเกงสามส่วนสีเขียว ใกล้กันพบรองเท้าแตะสีแดง 1 คู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำอย่างทุลักทุเล ส่วนผู้ตายทราบชื่อต่อมาคือนางศุภรัตน์ อิทธิขจรกิจ อายุ 62ปี จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลคล้ายถูกของมีคมบริเวณตามลำตัว 15 แผล ที่เท้าอีก6 แผล และมีรูขนาดใหญ่อยู่ที่หน้าท้องจำนวน2 รู โดยบาดแผลที่พบทั้งหมดมีทั้งเกิดตอนมีชีวิต และตอนเสียชีวิตแล้ว
ร.ต.อ.ธนกร กล่าวว่าจากการสอบสวนนายสนอง คงดารา อายุ59ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้พบศพคนแรกทราบว่าขณะที่ตนกำลังเดินข้ามสะพานไม้ ข้ามคลองเพื่อเข้าบ้าน ก็เหลือบไปเห็นศพซึ่งตอนแรกนึกว่าเป็นตุ๊กตาแต่พอได้กลิ่นเหม็นโชยมาถึงรู้ว่าเป็นศพคนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
ด้านนายต่อลาภ อิทธิขจรกิจ อายุ27 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า บ้านของตนประกอบอาชีพเปิดเป็นร้านขายยา ก่อนหน้าเกิดเหตุแม่ของตนได้หายออกไปจากบ้าน2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่3 สิงหาคม ที่ผ่านมาแต่แม่ตนได้กลับบ้านด้วยตนเอง อีกครั้งเมื่อวันที่4 สิงหาคม เวลาประมาณ19.00น. ซึ่งครั้งนี้เเม่ตนไม่ได้กลับมาที่บ้าน ตนจึงออกตามหาเเต่ก็ไม่พบตัวเเม่ จนมาพบเป็นศพดังกล่าว ซึ่งภายหลังมาทราบจากคนข้างบ้านว่าที่แม่ของตนหายไปวันที่3 สิงหาคมนั้น เป็นเพราะเพื่อนบ้านได้แนะนำให้แม่ตนไปหาหมอที่รพ.ภูมิพล เพราะแม่ของตนชอบบ่นว่าปวดขาและกลัวที่จะเป็นอัมพาต นอกจากนี้แม่ของตนยังเป็นโรคซึมเศร้าและติดยานอนหลับด้วย แต่ไม่เชื่อว่าแม่จะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
นายบุญโชค ลิ้มเสรี อายุ45ปี อาชีพขับขี่รถจยย.รับจ้าง เปิดเผยว่าตนเป็นผู้มาส่งผู้ตายที่บริเวณเกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นรับผู้ตายมาจากบริเวณซอยพหลโยธิน52 โดยผู้ตายไม่ได้บอกจุดหมายบอกแค่ว่าให้ขับไปเมื่อมาถึงแยกที่สามารถทะลุซอยรามอินทราจึงบอกให้ตนหยุดรถและถามราคาค่าโดยสาร ตนจึงบอก25บาท ก่อนที่ผู้ตายจะจ่ายเงินและเดินเท้าต่อไปเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุและสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพนำส่งนิเวชรพ.ภูมิพลอเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป