ตร.รู้ตัวกลุ่มมือยิงถล่มคู่อริแล้วยันไม่ใช่“การ์ดผับดัง”

          วันที่ 9 ส.ค.60 จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน ใช้รถยนต์เก๋ง สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน เป็นยานพาหนะ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ปืนพกสั้น 9 มม.และ 11มม. ไล่ยิงถล่มรถยนต์กรบะคู่อริ จนต้องจอดรถวิ่งหนีหลบหนีเข้าป่า และรอดชีวิตมาได้ คือ นายธนพล ชุมเชื้อ (หรือชื่อเดิม นายชูชาติ ชุมเชื้อ) อายุ 33 ปี บาดเจ็บที่เบ้าตาขวาแตกจากคมกระสุนเฉี่ยว และนายศศิธร นิลละออ อายุ 30 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง และเป็นน้องชายของ นายสำเริง นิลละออ นายก อบต.นาพละ อ.เมืองตรัง มีบาดแผลจากการถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณท้ายทอย เย็บ 10 เข็ม เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 8 ส.ค.60 ที่ผ่านมา

          หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนผู้เสียหายรวมทั้งพยานแวดล้อม และไล่เก็บภาพจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายไล่ยิง ทั้งนี้ภาพวงจรปิดของกล้องบริเวณแยกหน้าห้างตรังพลาซ่า หันเข้าประตูอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ เห็นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ของผู้เสียหายขับผ่านไปก่อน ช่วงเวลา 01.43 น.เพื่อไปทำแผลที่โรงพยาบาลตรัง หลังจากที่นายศศิธร ถูกตีท้ายทอยได้รับบาดเจ็บภายในสถานบันเทิง จากนั้นห่างกันประมาณ 5 นาที มีรถยนต์เก๋ง โตโยต้า คัมรี่ สีดำ ได้ขับตามไปยังโรงพยาบาลตรัง

          พ.ต.อ.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ล่าสุดจากการสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อมในสถานที่เกิดเหตุ จุดที่คนร้ายใช้ของแข็งตีท้ายทอยนายศศิธร ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณที่รถของผู้เสียหายจอดทิ้งอยู่ รวมประมาณ 4 -5 ปาก ยืนยันว่า คนร้ายเป็นกลุ่มนักเที่ยวด้วยกัน ไม่ใช่การ์ดของสถานบันเทิง แต่จะมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยคนกลุ่มนี้ประกอบธุรกิจที่อาจมีอาวุธปืนในความครอบครอง โดยทางเจ้าหน้าที่จะรีบรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับ คาดจะออกหมายจับได้ใน 1-2 วันนี้

          อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มมือปืนที่ลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจในครั้งนี้ เป็นนักเที่ยวมาจากพื้นที่ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ที่เข้ามาเที่ยวภายในสถานบันเทิงดังกล่าว ซึ่งอาจเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา

          ด้านนายสำเริง นิลละออ นายก อบต.นาพละ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นพี่ชายของนายศศิธร ผู้เสียหายที่คนร้ายทุบท้ายทอยได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า น้องชายประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ทำฝ้าเพดาน โดยได้โทรศัพท์มาหา หลังได้รับการช่วยเหลือจากชาวสวนยางพาราที่กรีดยางในพื้นที่และนำตัวไปส่งบ้านแล้ว หลังทราบเรื่องก็รีบเดินทางมาหาน้องชาย 

          โดยน้องชาย เล่าให้ฟังว่า ถูกคนร้ายไล่ยิงจากหน้าโรงพยาบาลตรัง หลังจากถูกตีภายในสถานบันเทิงแล้วมาทำแผล โดยเพื่อนของน้องชายเป็นคนขับรถให้ เพราะน้องชายเจ็บศีรษะ จากนั้นถูกกลุ่มคนร้ายไล่ยิงตามหลังมา จากหน้าโรงพยาบาลตรัง จนกระทั่งเพื่อนของน้องชายถูกกระสุนเฉี่ยวเบ้าตาขวา และในระหว่างขับรถหลบหนี เพื่อนน้องชายได้พยายามเบรครถ หวังว่าให้รถคนร้ายพุ่งชนท้าย และจะได้ขับรถหลบหนีไปต่อ แต่คนร้ายได้ขับหลบหลีกได้ทันและพุ่งไปข้างหน้า ก่อนที่จะกลับรถวิ่งย้อนกลับมา และช่วงระหว่างคนร้ายกลับรถ ทางน้องชายและเพื่อนก็ได้ลงจากรถวิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในคูระบายน้ำในพื้นที่ ม.2 ต.นาพละ ก่อนที่จะหาโอกาสวิ่งหลบหนีเข้าป่าและได้รับการช่วยเหลือจากชาวสวนยาง ซึ่งน้องชายไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และน้องชายไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นครั้งแรกด้วย การกระทำของกลุ่มคนร้ายอุกอาจมาก อีกทั้งใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุอีกต่างหาก จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจและฝ่ายปกครอง เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว