มีรายงานว่า เมื่อศาลไต่สวนพิพากษาแล้ว จะต้องคืนสำนวนส่งอัยการและอัยการจะต้องนำมาให้ ตำรวจเพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ตามป.วิอาญา 150 วรรค 11 จึงทำให้ สน.ทุ่งสองห้อง ต้องประชุมชุดสืสวนอีกครั้งเพื่อหาความชัดเจน และเตรียมจะหารือกับ ดีเอสไอ ด้วย // หลังจากที่ได้รับคำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาผู้กระทำผิด โดยจะเรียกประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวนก่อน แต่หากยังไม่สามารถหาข้อเท็จจริงได้ สามารถขอขยายเวลาในการสืบสวนสอบสวนได้
ขณะที่ นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย บอกว่า แม้ ดีเอสไอ ให้ความเห็นว่าเป็นหน้าที่ตำรวจในการหาผู้กระทำผิด แต่การชี้แจงของ ดีเอสไอ เหมือนเป็นการผลักภาระของตัวเองให้ตำรวจ เพราะการเสียชีวิตของพี่ชาย เสียชีวิตระหว่างถูกคุมตัวในห้องขังดีเอสไอ / โดยจะทำหนังสือยื่นต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ดีเอสไอแสดงสปิริตในการสืบสวนสอบสวนร่วมกับตำรวจ โดยจะปรึกษาร่วมกับทนายความว่าจะสามารถเอาผิดดีเอสไอได้มากน้อยแค่ไหน
มีข้อมูล จาก สำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า เมื่อศาลมีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพแล้ว ตามขั้นตอนจะต้องส่งคำสั่งให้พนักงานอัยการนำคำสั่ง / พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนเจ้าของเรื่องส่งมาตั้งแต่แรก ส่งกลับไปยังพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อตั้งเรื่องดำเนินคดีหาตัวผู้ที่ทำให้ตาย // ซึ่งขั้นตอนการคัดถ่ายคำสั่งศาลอาจจะต้องใช้ระยะเวลาบ้าง บางทีคำสั่งศาลที่อ่านไปอาจจะยังเป็นแค่ตัวร่าง จะต้องพิมพ์คำสั่งให้สมบูรณ์ถูกต้องทุกอย่างก่อนที่ทางอัยการจะไปคัดถ่าย ซึ่งขั้นตอนตรงนี้คาดว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์
แม้ว่า ไม่มีระยะเวลากำหนดไว้ แต่คำสั่งไต่สวนศาลจะระบุต้องส่งโดยเร็ว ซึ่งหมายความ ว่า ถ้าได้คำสั่งแล้วก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนส่งมาส่งกลับไปโดยเร็ว
โดย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้มีคำสั่งว่าผู้ตายคือนายธวัชชัย อนุกูล ตายที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2559 เวลา 04.43 น. เหตุและพฤติการณ์ที่ตายสืบเนื่องมาจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ตับแตก เลือดออกในช่องท้อง ร่วมกับการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ โดยยังไม่ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่.