ที่เกิดเหตุเป็นสะพานกลับรถหน้าหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งใช้เป็นจุดกลับรถจากฝั่งพระราม 2 ขาออก มุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ความสูงจากพื้นถนนประมาณ 10 เมตร จากการตรวจสอบด้านบนบริเวณกลางสะพานพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีขาวแดง ทะเบียน 5 กพ 5598 กรุงเทพมหานคร แต่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมเลขที่ 4 กม 8781 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่ 1 คัน ส่วนผู้ขับขี่และซ้อนท้ายร่างกระแทกขอบสะพานตกลงไปอยู่บนถนนตรงช่องทางด่วนด้านล่าง ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน
ทราบชื่อคนขับคือ นายวีรพงษ์ เนธิบุตร อายุ 20 ปี สภาพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงลายดอกขาสั้น นอนหายใจรวยรินมีบาดแผลหักผิดรูปบริเวณสะโพก เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่ง รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ส่วนผู้ซ้อนท้าย ชื่อนายบริสุทธิ์ สุขเพีย อายุ 22 ปี สภาพสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ มีบาดแผลศีรษะกระแทกพื้นจนหมดสติแพทย์ช่วยกันปั๊มหัวใจจนสัญญาณชีพกลับมาก่อนนำส่งรักษาอาการที่ห้องไอซียู รพ.บางมด
จากการสอบถาม นายอภิชาติ แซ่อุ้น อายุ 57 ปี พลเมืองดีที่ขี่รถจยย.ตามหลังผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายมากล่าวว่ามีอาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ที่วินวัดไทร ถนนเอกชัย ก่อนเกิดเหตุขี่รถ จยย.มาทำธุระที่ตลาดร่วมมิตร ถนนวุฒากาศ ปากซอย 13 ท้องที่ สน.ตลาดพลู พบผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ขี่รถเข้าไปพยายามกระชากสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายชาย รายหนึ่ง อายุประมาณ 60 ปี ที่เดินอยู่หน้าตลาดดังกล่าวแต่กระชากไม่สำเร็จ เพราะมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์อยู่เยอะผู้ต้องหาทั้ง 2 รายจึงละความพยายาม
จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายก็พากันเร่งเครื่องหลบหนีจากถนนวุฒากาศ เข้าสู่ถนนจอมทอง ถนนสุขสวัสดิ์ และเข้าสู่ถนนพระราม 2 ขาออก ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรโดยมีตนขับขี่ รถ จยย.ไล่ตามมาแบบติดๆ กระทั่ง นายวีรพงษ์ ผู้ขับขี่ตัดสินใจเร่งเครื่องพา นายบริสุทธิ์ ขึ้นสะพานกลับรถบริเวณหน้าหมู่บ้านชิชา ด้วยความเร็วสูง ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนขอบสะพาน ร่างของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ร่วงตกลงมากระแทกพื้นถนนจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนตนก็รีบโทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ร.ต.อ.นัทธพงศ์ กล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายยังไม่สูญเสียทรัพย์สินจึงไม่ได้เดินทางไปเเจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ตลาดพลู ท้องที่เกิดเหตุแต่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวเพื่อให้มาเป็นเจ้าทุกข์คดีพยายามชิงทรัพย์ ขณะนี้สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.บางมด อยู่ระหว่างเฝ้าดูอาการของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่โรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบประวัติทั้งคู่ยังไม่พบว่าเคยต้องคดีหรือกระทำผิดกฎหมาย
ส่วนรถจยย.ของกลางที่พลิกคว่ำอยู่บนสะพานกลับรถนั้นตามข้อมูลพบว่าเป็นรถของคนรู้จักกับผู้ต้องหาที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยืมเอามาก่อเหตุและวางแผนเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนก่อนลงมือ เบื้องต้นจะอายัดตัวทั้งคู่ไว้ดำเนินคดีใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถปลอม ก่อนติดตามตัวเจ้าของรถมาให้ปากคำต่อไป