โดยช่องทางการมีส่วนร่วม และรับฟังความคิดเห็นนั้น จะต้องเปิดกว้างและทั่วถึง ทั้งกลไกปกติของภาครัฐ ช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ รวมทั้งสื่อออนไลน์ เพื่อจะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ก็ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง โดยกรรมการทุกท่านต้องมีคุณสมบัติเป็นทั้งนักคิด นักวิชาการ และจะต้องเป็นนักปฏิบัติด้วย เพราะปัญหาอยู่ที่การขับเคลื่อน แล้วก็ความขัดแย้ง ความเห็นต่าง บางอย่างก็ยากมากเกินไปที่ทุกคนจะเข้าใจได้ ทุกอย่างจะต้องแก้จากเล็กถึงจะไปแก้ใหญ่ ๆ ถ้าเราคิดจะทำอันใหญ่โดยที่ไม่แก้เล็กๆ ข้างล่างไปไม่ได้หรอกครับ เพราะทั้งหมดยึดโยงด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า 2.การจัดทำและการบังคับใช้กฎหมาย ที่คงไม่เป็นเพียงจะเป็นแค่พื้นฐานของการปฏิรูปประเทศ ยังเป็นการสร้างความปรองดองของคนในชาติอีกด้วย ทุกคนมาอยู่ภายใต้กฎหมายอันเดียวกัน เคารพกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม เพราะว่าถ้าไม่มีการละเมิดกฎหมาย มีมีการละเมิดสิทธิผู้อื่น ก็จะไม่มีความขัดแย้ง เจ้าหน้าที่ก็ไม่เสียหาย ประชาชนก็ไม่เดือดร้อน ประเทศก็มีเสถียรภาพ และก็จะพร้อมสำหรับการพัฒนา แล้วก็เดินหน้าไปสู่การปฏิรูป อย่างไรก็ตามการปฏิรูปที่ต้องเปลี่ยนแปลงครบวงจร จะยิ่งเกิดปัญหาอยู่กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ทำให้เดินไปได้ช้า ตนเองไม่อยากใช้กฎหมายบังคับให้มากจนเกินไป เพียงแต่ขอความเข้าใจ ขอความร่วมมือ ว่าเราจะต้องทำอะไรร่วมกันบ้าง
“ที่ผ่านมารัฐบาลและคสช. ก็ได้ให้ความสำคัญกับกฎหมายและกระบวนยุติธรรมมาโดยตลอด เนื่องจากผมเห็นว่า นอกจากจะเป็นการสร้างนิติรัฐ นิติธรรม ในสังคมไทยแล้ว ก็ยังเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งทุกคนต้องเคารพกฎหมาย และยึดมั่นในทั้ง 3 อำนาจอธิปไตย คืออำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ที่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลกัน และเป็นอิสระ ไม่ก้าวล่วงอำนาจซึ่งกันและกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว