ครู-นักเรียนร่วมอาลัย "น้องกาก้า"

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 4 สค ผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูบรรยากาศการรับส่งนักเรียนที่หน้าโรงเรียนวัดเชิงเลน (เครือตราชูข้าราชการกรมการปกครองอุปถัมป์ 6 ) ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ คนขับรถลืมน้องกาก้า หรือ ด.ช.ชนะชัย คงพล อายุ 6 ปี นักเรียนชั้น ป.1 เอาไว้ในรถ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ครูและนักเรียนได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้น้องกาก้าด้วย

บรรยากาศการรับส่งนักเรียนมายังโรงเรียนวัดเชิงเลน ยังเป็นไปด้วยความปกติส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ตู้และปิกอัพ มีนักเรียนเฉลี่ยคันละ 10-18 คน และมีรถบัสรับส่งของทางเทศบาลตำบลราชครามจอดอยู่อีก 1 คัน โดยที่หน้าประตูทางเข้าโรงเรียนมีครูเวรมาคอยรับนักเรียน ขณะที่คนขับรถที่มาจอดรถส่งนักเรียน จะเข้มงวดกับการตรวจดูภายในรถจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในรถแล้ว

นายแมน สังข์สุวรรณ อายุ 59 ปี คนขับรถยนต์ตู้รับส่งนักเรียน เปิดเผยว่าตนขับรถมาเป็นเวลา 2 ปีเศษรับส่งนักเรียนสองแห่งคือ ร.ร.บางปะอินราชานุเคราะห์ และร.ร.วัดเชิงเลน มีเด็กๆตามเส้นทางจำนวน 18 คน ทุกครั้งที่เด็กๆขึ้นรถก็จะเช็คจำนวนว่ามีเด็กขึ้นมาเท่าไหร่ หรือเวลาลงก็จะเปิดประตูและรับนักเรียนลงจากรถจนหมด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องยิ่งเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ปกครองจะเน้นย้ำให้ดูแลลูกๆอย่างดี ที่สำคัญเวลาจอดรถก็จะจอดในร่ม เพื่อป้องกันหากมีการลืมเด็กจริงก็จะลดอันตรายไปได้มาก

ด้านนายเรืองศักดิ์ ภาคีพร ครูเวรที่มายืนรอรับเด็กนักเรียนหน้าประตู เปิดเผยว่าปกติรถที่มาส่งเป็นรถรับจ้างทั้งหมด โดยทางผู้ปกครองพร้อมใจกันให้ลูกขึ้นมาจากบ้าน และจ่ายค่ารับส่งกันเอง แต่ทางโรงเรียนก็จะคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยช่วงถึงโรงเรียน โดยรถรับจ้างเหล่านี้จะไม่มีครูนั่งไป ยกเว้นรถบัสที่ทางเทศบาลตำบลราชครามจัดมาให้ ก็จะมีครูนั่งไปด้วยทุกครั้ง ที่ผ่านมานักเรียนจะมาถึงโรงเรียนก่อน 8.00 น. โดยคนขับจะมาส่งใกล้ประตู ส่วนนักเรียนมาหรือขาด ก็จะอยู่ที่ครูประจำชั้นคอยตรวจสอบ แล้วโทรสอบถามผู้ปกครองว่าเด็กไม่มาโรงเรียนเพราะอะไร

น.ส.นุชรีย์ เพียรเสร็จ อายุ 37 ปีครูประจำชั้น ป.1 ซึ่งเป็นครูประจำชั้นน้องกาก้า เปิดเผยว่าน้องกาก้าเป็นเด็กไม่ค่อยพูด และขาดเรียนบ่อย เนื่องจากป่วยมีโรคหอบหืด และทุกวันเมื่อไม่เห็นน้องในชั้นเรียนก็จะโทรศัพท์ถามผู้ปกครอง แต่วันเกิดเหตุ ไม่ได้โทรเพราะเข้าใจว่าคงอาจจะไม่มา เนื่องจากก่อนวันเกิดเหตุ เพิ่งคุยกับญาติว่าจะให้น้องมาเรียนเสริมพิเศษตอนเย็น จึงเข้าใจว่าน้องคงจะมาเย็น ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายเกิดขึ้น ซึ่งต่อไปก็คงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

น.ส.นันทิภา ภาคีวุฒิ อายุ 41 ปี ขี่จักรยานมาส่งลูกที่โรงเรียนเปิดเผยว่าตนไม่ได้ใช้บริการตอนเช้า แต่ต้องอาศัยให้ลูกนั่งรถโรงเรียนกลับตอนเย็น พอทราบข่าวก็รู้สึกตกใจและไม่สบายใจ แต่ก็มั่นใจว่าทางโรงเรียนจะดูแลอย่างดี ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นก็จะเป็นอุทาหรณ์เตือนให้คนขับรถเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้นไปอีก

ด้านนายนราวิน ไวมาลา รักษาการผู้อำนวยการเปิดเผยว่าทางโรงเรียนไม่สามารถที่จะมีรถรับส่งนักเรียนเองได้ เนื่องจากงบประมาณจำกัด อีกทั้งเป็นโรงเรียนที่มีเด็กนักเรียนในเขตไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นเด็กนอกเขต ผู้ปกครองก็จะพร้อมใจกันหารถรับส่งนักเรียนตามเส้นทางที่นักเรียนมีภูมิลำเนา แต่ทางผู้อำนวยการคือนางชบา โรจนเสน จะมีการประชุมคนขับรถทั้งหมด ซึ่งมีรถรับจ้างทั่วไป 5 คันและเทศบาล 2 คัน เน้นในเรื่องความปลอดภัยเป็นประจำตั้งแต่เริ่มแรก จนปัจจุบัน และต่อไปนี้คนต้องให้ครูคอยไปช่วยดูตอนที่มาส่งด้วยว่าเด็กมากันกี่คน ลงครบมั้ย

ขณะที่นางอุดม หาพุด อายุ 68 ปีขายขนมหน้าโรงเรียน และเป็นร้านที่น้องกาก้าซื้อขนมทุกวัน และเป็นร้านเดียวที่น้องกาก้าซื้อ บอกว่าน้องเป็นเด็กไม่ค่อยพูด จะยิ้มแล้วมาซื้อขนมตอนกลับบ้าน บางทีก็มาซื้อตอนเช้า เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ ไปรดน้ำศพก็ร้องไห้ เอาขนมที่น้องชอบไปให้ด้วย