นอกจากนั้นเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลในด้านการฝึกตามกรอบต่าง ๆ ที่สามารถดำเนินการได้ ที่ผ่านมามีการมอบรางวัลให้กับหลายหน่วย ก็ขอให้ดำรงไว้อย่างต่อเนื่องซึ่งผลการทดสอบร่างกายระดับผู้บังคับกองพันฯ มีผู้ทดสอบผ่านเกณฑ์ถึง 36 นายเพิ่มจากครั้งที่แล้วเพียง 25 นายโดยตนได้มอบเงินเป็นขวัญกำลังใจให้คนละ 1 หมื่นบาท แต่ครั้งหน้าตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะผ่านเกณฑ์ 100 % ได้ถึง45 นาย สิ่งที่ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษและสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การปฏิบัติตัวของกำลังพลนั้น จะต้องไม่มีเรื่องที่สร้างปัญหาให้สังคมในแง่มุมต่างๆ และหากเกิดขึ้นทางผู้บังคับหน่วยต้องรับผิดชอบ
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยถือเป็นกิจกรรมหลักที่หน่วยจะต้องเตรียมการและดำเนินการในการไปตรวจเยี่ยมพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ได้เห็นการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้วก็ขอขอบคุณ จึงได้ฝากทุกกองทัพภาคให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมด้วย สำหรับการจัดกำลังของแต่ละหน่วยในปีงบประมาณหน้าตามแผนงานป้องกันชายแดน จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกำลังกำลังในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ เนื่องจากปีนี้มีการเออรี่ รีไทร์ จำนวนมาก ก็ให้มีการบริหารจัดการกำลังพลให้ดี
ส่วนการสร้างความสามัคคีปรองดอง ก็ให้ทุกหน่วยไปสร้างงานมวลชนในหน่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคีในหน่วยและค่ายตัวเอง ส่วนกรอบของการสร้างความปรองดองฯใหญ่นั้น ก็ต้องรอคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)กำหนดวันพร้อมกันทั่วไปประเทศ จากนั้นแต่ละหน่วยก็จะไปดำเนินการ “ผู้บังคับหน่วยรับฟังแล้วก็มีความตื่นตัว เข้าใจและตระหนักในปัญหาของชาติ พร้อมที่จะร่วมกันเดินไปข้างหน้า โดยเริ่มจากการดูแลตัวเองให้สอดคล้องกับคำพูดที่ว่า ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส และการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของตนเอง โดยเฉพาะการเป็นทหารของชาติ ตามแผนป้องกันชายแดน รวมถึงงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว