ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรามการป.ป.ช. ได้พิจารณากรณีดังกล่าวและมีมติว่านายอำพลมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบด้วยกฎหมาย โทษไล่ออกหรือปลดออก ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 82(2) ประกอบมาตรา 85 (7) แล้วให้ส่งรายงานมติดังกล่าวไปให้กกต.ทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
แหล่งข่าว กล่าวว่า นายอำพลเป็นหนึ่งในผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ทางกกต. มีมติชะลอการแต่งตั้งนายอำพลไว้ก่อนเพื่อรอผลการไต่สวนของป.ป.ช. อย่างไรก็ตามมติชี้มูลความผิดของป.ป.ช.ในกรณีดังกล่าวส่งผลถึงการขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการกกต. ซึ่งกกต.คงได้พิจารณาเนื่องจากมีโทษสูงถึงไล่ออกหรือปลดออก