
วันนี้ในอดีต 2 ส.ค. 2477 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ขึ้นเป็นผู้นำของเยอรมนี ในตำแหน่ง'ฟือเรอร์' (Fuhrer ) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ควบตำแหน่งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ประมุขของรัฐ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ฮิตเลอร์ ขยับสถานะตนเองจากนายสิบในสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากเยอรมนีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามและต้องลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายส์(The Treaty of Versailles) ซึ่งบังคับให้ต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามจำนวนมาก ถูกลดกำลังทหาร ประชาชนตกงาน เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง ส่งผลให้เศรษฐกิจตกของประเทศตกต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยฮิตเลอร์เริ่มเรืองอำนาจเป็นหัวหน้าพรรคนาซี(NAZI) และเป็นผู้นำเยอรมนีในที่สุด
ฮิตเลอร์ เริ่มสะสมอาวุธ สร้างกองกำลังทหาร ฟื้นฟูเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในประเทศครั้งใหญ่ จากนั้นก็เข้ายึดครองประเทศออสเตรียและเชกโกสโลวะเกีย และเคลื่อนทัพเข้าสู่โปแลนด์เมื่อวันที่ 1 ก.ย 2482 ส่งผลให้ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามต่อเยอรมนี กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 (2482-2488)
จากนั้น ฮิตเลอร์ได้นำกองทัพเยอรมันและฝ่ายอักษะยึดครองยุโรปได้เกือบทั้งทวีป และใช้นโยบายด้านเชื้อชาติฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปอย่างน้อย 11 ล้านคน เป็นชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน
พฤติการณ์ของ'ฮิตเลอร์'และอุดมการณ์นาซีถูกคนเกือบทั้งโลกมองว่า ผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง โครงการการเมืองของเขานำมาซึ่งสงครามโลก ทิ้งไว้ซึ่งยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางที่ถูกทำลายล้างและยากจน ประเทศเยอรมนีเองประสบการถูกทำลาย นโยบายของฮิตเลอร์ทำให้มนุษย์ได้รับความทุกข์ทรมานในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน นักประวัติศาสตร์ นักปรัชญาและนักการเมืองมักใช้คำว่า "ชั่วร้าย" (evil) ในการอธิบายระบอบนาซี
ในช่วงท้ายของสงคราม วันที่ 30 เม.ย. 2488 ฮิตเลอร์จบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายพร้อมภรรยา เอวา บราวน์ (Eva Braun) ในหลุมหลบภัยที่กรุงเบอร์ลินเพื่อหนีการถูกจับเป็นเชลย