และให้คู่ความยื่นคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ 15 ส.ค. 2560 ซึ่งหากไม่ยื่น ให้ถือว่าไม่ติดใจ ทั้งนี้การสืบพยานได้เสร็จสิ้นแล้ว และให้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค. 2560 เวลา 09.00 น.
ซึ่งวันฟังคำพิพากษา 25 ส.ค.นี้ ตรงกับวันตัดสินคดีของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และนายภูมิ สาระผล และพวก ในคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี
สำหรับ คดีจำนำข้าวคือ คดีหมายเลขดำ อม.22/2558 ที่ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย
ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157
และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
คดีดังกล่าวนับถึงวันนี้ก็เรียกว่า ใกล้เข้ามาทุกขณะ เพราะศาลนักฟังคำพิพากษาในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2560 เวลา 9.00 น.
คดีนี้มีการการไต่สวนพยานทั้งฝ่ายโจทก์ และจำเลย รวม 45 ปาก ซึ่งเริ่มไต่สวนมาตั้งแต่ 15 ม.ค. 2559
ข้อกล่าวหา "อดีตนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย" สืบเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าว ที่พรรคเพื่อไทยประกาศตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง และเมื่อ ยิ่งลักษณ์ ก้าวสู่ตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี หลังได้รับเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล ก็เดินหน้าดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ
คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่สืบเนื่องมาจากการการทำตามนโยบายของรัฐบาล โดย "ยิ่งลักษณ์" โดนดำเนินคดีในฐานะที่เธอเป็นนายกรัฐมนตรี "ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ" ก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า 5 แสนล้านบาท
"ยิ่งลักษณ์" พยายามต่อสู้ว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา เธอไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ เนื่องจากเธอดูแลในระดับนโยบายเท่านั้น ส่วนเรื่องรายละเอียดการดำเนินการต่างๆ จะมีผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วน
พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า เธอปล่อยปละละเลยจนทำให้เกิดการทุจริตและสร้างความสียหายจำนวนมหาศาล โดยเธอได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว
คดีนี้ศาลใช้เวลาในการไต่สวนประมาณ 1 ปีครึ่ง โดยศาลเปิดโอกาสให้ฝ่ายจำเลย นำพยานมาไต่สวนมากถึง 30 ปาก ใช้เวลาในการไต่สวนทั้งหมด 16 นัด ขณะที่ฝ่ายโจทก์ คือ อัยการ มีการไต่สวนพยานทั้งหมด 15 ปาก สืบพยาน 10 นัด
1 สิงหาคม คือไฮไลท์ คดีจำนำข้าว ที่มี "ยิ่งลักษณ์" เป็นจำเลย
ถึงแม้ศาลจะนัดตัดสินในวันที่ 25 สิงหาคม แต่ดูเหมือนไฮไลท์ของคดีนี้จะอยู่ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดให้ "ยิ่งลักษณ์" มาแถลงปิดคดีด้วยวาจา คือ แถลงปิดคดีด้วยตัวเอง ก่อนที่จะให้ยื่นแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 15 สิงหาคม
ปกติการแถลงปิดคดี สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1.แถลงด้วยวาจา
2.แถลงเป็นลายลักษณ์อักษร
ซึ่งการแถลงด้วยวาจานี้ จำเลยมีสิทธิร้องขอต่อศาลได้ (ส่วนจะได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล) เช่นเดียวกับการแถลงเป็นลายลักษณ์อักษร ที่ศาลจะกำหนดระยะเวลาให้
การแถลงปิดคดีด้วยวาจา หลายฝ่ายมองว่า จะเป็นเวที "ยิ่งลักษณ์โชว์" นอกจากเป็นโอกาสที่เธอจะแถลงโน้มน้าวให้ศาลเชื่อตามเธอ.. สิ่งที่สำคัญที่สุดของถ้อยแถลงด้วยวาจา น่าจะเป็นเนื้อหา ที่จะโน้มนาวและปลุกพลังมวลชน ที่อยู่ข้างฝ่ายเธอนั่นเอง!
ดังนั้น สิ่งที่ถูกจับตาในวันพรุ่งนี้ (1 สิงหาคม) จึงไม่เพียงแค่ในเวทีศาล แต่นอกเวทีศาลอาจสำคัญยิ่งกว่า ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า มวลชนที่มาสนับสนุนให้กำลังใจ ยิ่งลักษณ์ อาจจะมามากกว่าวันไต่สวนคดีนัดสุดท้าย (21 ก.ค.)
พรุ่งนี้ 1 สิงหาคม จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด อย่ากระพริบเด็ดขาด!