ทนาย "บิ๊กจิ๋ว" บอกไม่เลื่อน ป่วยแต่ยังไหว ลุ้นฟังตัดสินคดีสลายม็อบ พธม.2 ส.ค.

 เมื่อวันที่ 30 ก.ค.60 นายวิภาส จารุพงษ์ ทนายความ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือบิ๊กจิ๋ว อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งตกเป็นจำเลยที่ 2 คดี ป.ป.ช.ยื่นฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบจากการสลายม็อบ พธม.ปี 2551 กล่าวถึงความพร้อมที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 2 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น.ว่า 
ได้รับทราบจาก พล.อ.ชวลิตว่าจะเดินทางไปฟังคำพิพากษา ส่วนที่มีอาการป่วยอยู่นั้น พล.อ.ชวลิตก็ยืนยันว่าเดินทางไปไหว ยังไม่มีการขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาเเต่อย่างใด ส่วนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และจำเลยคนอื่น ก็คาดว่าจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาเช่นเดียวกัน ยังไม่มีใครเเจ้งมาว่าจะมีใครขอเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ ป.ป.ช. ได้ ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อายุ 70 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 น้องเขยนายทักษิณ ชินวัตร , พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อายุ 87 ปี อดีตรองนายกฯ , พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อายุ 68 ปีอดีต ผบ.ตร. น้องชายพล.อ.ประวิตร รองนายกฯ รัฐบาล คสช. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อายุ 66 ปี อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยที่ 1-4 เมื่อปี 2558 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด 
จากกรณีรัฐบาลนายสมชาย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอคืนพื้นที่การชุมนุมจากกลุ่ม พธม.เมื่อวันที่ 7 ต.ต.51 ที่ล้อมอาคารสภาไม่ให้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อกดดันให้ยุบสภาและลาออกจากตแหน่ง โดยการขอคืนพื้นที่มีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมกระทั่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 
ซึ่งศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ได้ไต่สวนพยานนัดสุดท้ายเสร็จเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาและนายสมชาย อดีตนายกฯ จำเลยที่ 1 ก็ได้แถลงปิดคดีด้วยวาจา ซึ่งระหว่างการพิจารณาคดี นายสมชาย อดีตนายกฯ ได้ประกันตัวไปในวงเงิน 9.5 ล้านบาท , พล.อ.ชวลิตหรือบิ๊กจิ๋ว อดีตรองนายก ฯ ได้ประกันวงเงิน 8 ล้านบาท ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ อดีต ผบช.น. ได้ประกันตัวึวงเงินคนละ 6 ล้านบาท