28 ก.ค.60 -นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ตนไม่ก้าวล่วงกระบวนการพิจารณาและคำพิพากษาของศาล แต่ต้องพูดความจริงว่า ขั้นตอนต่างๆก่อนคดีจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะถึงศาล ทั้งในชั้นป.ป.ช.และการใช้มาตรา 44 ของรัฐบาลมีปัญหาเรื่องหลักนิติธรรมและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในระดับสากล ผู้มีอำนาจควรเข้าใจว่า คดีนี้มีความละเอียดอ่อน ในขณะที่กำลังส่งสัญญาณกดดันไม่ให้มีการเชิญชวนประชาชนมาฟังคำพิพากษา แต่กลับเร่งยึดเงินในบัญชีโดยอ้างมาตรการทางปกครองก่อนศาลตัดสิน จึงเริ่มไม่แน่ใจว่าใครกันแน่กำลังเร่งอุณหภูมิของเรื่องนี้ ถ้าอ้างว่าต้องทำเพราะเป็นขั้นตอนตามกฎหมายก็ต้องอธิบายว่า พอมีเสียงวิจารณ์กลับหยุดรอศาลก่อนได้อย่างไร
ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาน.ส.ยิ่งลักษณ์ รับแรงเสียดทานแบบยากที่ใครจะรับไหวอยู่แล้ว หัวใจคนทำด้วยเนื้อ อย่าไปเพิ่มแรงบีบกันอีกเลย ควรแสดงความเป็นลูกผู้ชายโดยให้จำเลยมีสมาธิในการเตรียมคำแถลงปิดคดีจะดูดีกว่า ตนเป็นห่วงภาพลักษณ์รัฐบาล ไม่อยากให้การเร่งรัดดำเนินการกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกมองได้ว่า ภายใต้อำนาจปัจจุบัน ข้าว ยาง ปาล์ม ไม้ผลต่างๆ ทุกอย่างราคาถูก แต่ความยุติธรรมราคาแพงลิบลิ่วจนแม้แต่คนระดับอดีตนายกฯ ยังจับต้องไม่ได้
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า คนเสื้อแดงไม่มีเกมใต้ดินหรือการปลุกระดมมวลชนใดๆในสถานการณ์เบ็ดเสร็จแบบนี้ เจ้าหน้าที่ประกบติดทุกกลุ่มอยู่แล้ว แต่อยากส่งเสียงถึงผู้มีอำนาจให้ตระหนักด้วยว่า ไม่มีสิ่งใดปลุกหัวใจคนให้ตื่นขึ้นได้ง่ายและยาวนานเท่าความอยุติธรรม