svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เผยประวัติ มือฆ่าข่มขืนเด็ก 14 พบคดีเพียบ!

19 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฉะเชิงเทรา - ผบช.ภ.2 พร้อมผู้การแปดริ้ว แจงพฤติการณ์การก่อเหตุ คนร้ายข่มขืนแล้วฆ่ารัดคอสาว 14 เผยพบพฤติกรรมหนีคดีทางเพศมาอย่างโชกโชน ทั้งยังมาก่อเหตุซ้ำและทำร้ายเหยื่อจนตาย ระบุเป็นคนเหลือเดนที่ญาติไม่ต้องการ หลังก่อเหตุขณะพยายามหลบหนียังไปก่อคดีชิงทรัพย์เพิ่มอีก 2 ครั้ง นอกจากนี้ทางการสืบสวนยังพบด้วยว่า เมื่อกว่าหนึ่งเดือนเศษที่ผ่านมายังไปก่อเหตุกระทำการข่มขืนหญิงสาววัย 30 ปี ในท้องที่ สภ.พนัสนิคม เพิ่มเติมอีก

วันที่ 19 ก.ค.60 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีข่มขืนแล้วฆ่ารัดคอเด็กหญิงวัย 14 ปี รายนี้ว่า แนวทางการสืบสวนคดีนี้ มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวน 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มคนใกล้ชิดหรือญาติตามที่ได้มีโซเชียลนำไปพิพากษา ระบุว่าผู้เป็นลุงเป็นคนกระทำผิด กลุ่มที่สองคือกลุ่มเด็กที่เป็นเพื่อนๆ กลุ่มที่สามคือ กลุ่มบุคคลที่อยู่ในบริเวณพื้นที่รัศมีประมาณ 1 กม. รวม ตลอดจนบุคคลที่พ้นโทษจากคดีที่เกี่ยวกับเรื่องเพศออกมา
หลังจากลงพื้นที่ไปเก็บดีเอ็นเอตัวอย่างมา ยังที่บริเวณบ้านของนายจ้างของผู้ต้องหา นายจ้างได้บอกว่าหลังจากเกิดเหตุแล้วได้มีคนงานหายไปหนึ่งคน คือ นายสุพรชัย หนูน้อย นั้นหายไป หลังจากนำชื่อมาตรวจสอบดูปรากฏว่าบุคคลรายนี้ ได้เคยมีหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นอยู่จำนวน 3 หมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคดีความผิดเกี่ยวกับเพศล้วนๆ จึงเกิดความสงสัยและได้เข้ามาดูถึงยังที่พัก พร้อมกับได้เก็บของใช้ส่วนตัวของผู้ต้องหา เช่น มีดโกน หวี เสื้อผ้า มาทำการส่งไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ 
ตามที่ได้เคยชี้แจงไปว่า ตัวอย่างที่ส่งไปทั้งหมดมี 26 รายการ แต่มีผู้ต้องสงสัยทั้งหมดเพียง 25 คน และอีก 1 รายการเป็นทรัพย์สินของผู้ต้องหา เมื่อนำไปตรวจเปรียบเทียบในห้องแล็ปกับดีเอ็นเอที่พบจากคราบอสุจิที่ติดอยู่กับผู้ตายปรากฏว่าผลนั้นตรงกัน ซึ่งช่วงระหว่างวันที่ 14 ก.ค.หลังเกิดเหตุแล้วตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงแทน คือ ในเขต อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.พนัสนิคม เพิ่มอีก 2 คดี 
โดยครั้งสุดท้ายนั้น ได้เอารถจักรยานยนต์ที่ชิงมาได้ทิ้งเอาไว้ที่บริเวณข้างทางในเขตท้องที่ สภ.บ้านโพธิ์ เนื่องจากน้ำมันหมด ทางตำรวจจึงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะต้องเดินเท้ากลับเข้ามายังพี่พักเดิมในพื้นที่อีกครั้ง และเมื่อช่วงประมาณ 05.00 น.ของวันนี้ ทาง ผกก.บ้านโพธิ์ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า ผู้ต้องหานั้นกลับเข้ามายังในที่พักอีกครั้งแล้วจริงๆ จึงได้เข้าไปเอาตัวมาได้ในที่สุด หลังจากถูกควบคุมตัวได้ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้เป็นผู้กระทำผิดจริง
"โดยผู้ต้องหารายนี้นั้น ไม่มีทุนทรัพย์ในการที่จะหลบหนี และไม่มีเพื่อนฝูง เพราะขณะที่มาหลบหนีคดีอยู่ในพื้นที่ สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ตลอด 3 ปีที่ผ่านมานั้น ผู้ต้องหาไม่ได้คบหากับใครเลย ส่วนทางญาติพี่น้องที่บ้านเกิดก็ไม่มีใครเอา จึงไม่มีหนทางไปไหน จนไปไหนไม่ได้ จึงต้องกลับมายังที่เดิม" พล.ต.ต.ธีรพล กล่าว
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ได้กล่าวตอบข้อซักถามจากผู้สื่อข่าวในข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้ต้องหาว่า ได้มีการเตรียมการวางแผนมาก่อนหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิตติ ระบุว่า ผู้ต้องหาไม่ได้มีการเตรียมการวางแผนมาก่อน โดยผู้ต้องหาได้เคยพูดจาแซวผู้ตายในขณะที่ผู้ต้องหาเข้ามาซื้อของยังที่ร้านค้าฝั่งตรงข้าม เยื้องกับบ้านพักผู้ชีวิตที่เกิดเหตุอยู่บ่อยครั้ง 
ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ซื้อเบียร์ไปดื่ม 1 ขวด แล้วจึงเกิดมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมา จึงได้เดินลัดเลาะจากกระท่อมมาตามถนนในหมู่บ้าน จากที่พักมายังที่บ้านของเหยื่อ ก่อนเลี้ยวเข้าทางถนนหลังบ้านเดินลัดผ่านป่ากระถินเข้ามายังในบริเวณบ้านทางด้านหลัง ระยะทางประมาณ 600 เมตร ก่อนเดินไปยังประตูหน้าบ้านพบว่าประตูถูกล็อกเอาไว้ จึงได้เดินมาที่ประตูข้างบ้านจนพบว่าประตูข้างบ้านไม่ได้มีการล็อกจึงได้เข้าไปก่อเหตุ ซึ่งเขาไม่ได้ทราบข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวผู้ตายมาก่อนว่าอยู่บ้านเพียงคนเดียวลำพัง 
สำหรับของใช้ส่วนตัวของนายสุพรชัย หรือนายแป๊ก ผู้ต้องหาที่เก็บส่งไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอนั้น ประกอบด้วย เส้นผม ใบมีดโกน หวีสีแดง ซองเก็บบรรจุหวีสีน้ำตาล แปลงสีฟัน ก้นบุหรี่ ถุงมือผ้า กางเกงยีนส์ และเสื้อยืด โดยเปรียบเทียบจากเนื้อเยื่อในเล็บมือขวาของผู้ตาย และคราบอสุจิปรากฏว่าตรงกันกับของนายแป๊ก จึงยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และทำเพียงคนเดียว 
เมื่อสอบถามว่าเหตุใดถึงต้องฆ่า ด.ญ.14 เขาบอกว่าเขาเกรงกลัวความผิด และเกรงว่าน้องเขาจะมาแจ้งความเอาผิด จึงได้ใช้มือซ้ายบีบคอเหยื่อ และใช้มือขวากดปิดปากและจมูกจนขาดอากาศหายใจตาย สำหรับผู้ต้องหารายนี้นั้น หลังจากหนีคดีมาจากจังหวัดขอนแก่นแล้ว ได้มาหาสมัครงานทำเป็นคนตัดไม้กับนายจ้างรายนี้ โดยใช้ชื่อปลอมซึ่งเป็นการนำเอาชื่อของน้องชายมาหาสมัครงานทำ พล.ต.ท.จิตติ กล่าว 
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า จากทางการสืบสวนยังพบด้วยว่าเมื่อกว่าหนึ่งเดือนเศษที่ผ่านมาผู้ต้องหารายนี้ ยังได้เคยไปก่อเหตุกระทำการข่มขืนหญิงสาววัย 30 ปีเศษ ในท้องที่ สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี อีก 1 คดี ขณะที่หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อนั้นอยู่บ้านพักเพียงลำพังคนเดียว โดยได้ปีนมุดเข้าไปที่ใต้หลังคาสังกะสี ลงไปกระทำการข่มขืนเหยื่อจนสำเร็จ

logoline