จากการตรวจสอบพบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติถึง 10.6 ล้านไร่ และโดนบุกรุกเพื่อปลูกยางพารากว่า 1.3 ล้านไร่ โดยเฉพาะในจังหวัดเลยที่มีพื้นที่ป่าในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้รวมกว่า 2.3 ล้านไร่ แต่กลับถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราถึงกว่า 4.8 แสนไร่ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือในท้องที่รอยต่อจังหวัดเลย-เพชรบูรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำป่าสัก มีเนื้อที่กว่า 9.4 แสนไร่ แต่ปัจจุบันถูกบุกรุกทำลายเหลือพื้นที่ป่าเพียง 3 แสนกว่าไร่เท่านั้น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพารา คาดว่าเป็นการบุกรุกของกลุ่มนายทุนไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่
ปฏิบัติการในครั้งนี้ มีขั้นตอนการรื้อถอนพืชผลอาสินตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ซึ่งกรมป่าไม้เริ่มติดประกาศให้ผู้บุกรุกรื้อถอนตั้งแต่เดือนมีนาคมปี2560 จนปัจจุบันยังไม่พบว่ามีผู้มาอ้างสิทธิในที่ดินหรือทำการรื้อถอนตามประกาศแต่อย่างใด จึงได้เข้าตรวจยึดพื้นที่พร้อมทั้งตัดฟันต้นยางทิ้ง จากนั้นจะดำเนินการปลูกต้นไม้ฟื้นฟูควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อช่วยกันดูแลพื้นที่ป่าและรักษาระบบนิเวศน์ให้คงอยู่ต่อไป ตั้งแต่ปี 2558 สามารถตรวจยึดคืนพื้นที่ได้ประมาณ130,000 ไร่ และมีเป้าหมายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นไร่