ร่วมกันจับกุมตัวนายนพดล แซ่ซิ้ม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1594/2560 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ในข้อหา วิ่งราวทรัพย์พร้อมของกลางบัตรประจำตัวประชาชนของน.ส.อำพิกา ใจซื่อ ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้พิการตาบอด กระเป๋าเงิน เสื้อผ้า และรองเท้าที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยจับกุมตัวได้บริเวณหน้าสถาพรอพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 50/24 ซ.คลองหลวง 1 ต.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.วัชรพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.พญาไท รับแจ้งเหตุจากน.ส.อัมพิกา ใจซื่อ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาว่าช่วงเวลา 16.50-17.00 น. ขณะที่น.ส.อัมพิกา พร้อมนายสมคิด ใจซื่อ และนายสุทธิพงษ์ อัศวภูมิ ทั้งหมดเป็นผู้พิการทางสายตาได้นั่งอยู่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าศูนย์การค้าอินทราสแควร์ ประตูน้ำ ถ.ราชปรารภ แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. ได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อเข้ามาจูงนายสมคิด เดินเข้าไปในศูนย์การค้าอินทราสแควร์ ประตูน้ำโดยบอกว่าจะพาไปเอาข้าว ก่อนได้พานายสมคิดไปยืนอยู่ในห้างโซลโรงแรมอินทรา รีเจ้นท์ ก่อนจะเดินกลับมาหาน.ส.อัมพิกา
พล.ต.ต.วัชรพงศ์ กล่าวต่อว่า นายนพดลได้ขอตรวจสอบเอกสาร พร้อมทั้งดึงเอากระเป๋าย่ามสีฟ้าของผู้แจ้งภายในมีกระเป๋าสีชมพูบรรจุทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 4,000 บาท บัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบชายต้งอสงสัยสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ทับเสื้อคอปกสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าหุ้มส้นสีขาว-ดำ จูงนายสมคิดมาปล่อยทิ้งไว้ จากนั้นได้เดินไปหาน.ส.อัมพิกา ก่อนจะขึ้นรถแท็กซีสีเขียว-เหลือง หลบหนีไปทางแยกประตูน้ำ
สอบสวนนายนพดล รับสารภาพว่า ตนตกงาน ไม่มีงานทำ ที่ก่อเหตุเพราะต้องการนำบัตรประชาชนของผู้เสียหายไปซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ ตั้งแต่เด็กนายนพดลไม่มีบัตรประชาชน เพราะพ่อแม่ไม่ได้แจ้งเกิด จึงเก็บบัตรประชาชนของผู้เสียหายไว้ เนื่องจากต้องการอยากจะซื้อโทรศัพท์ จึงก่อเหตุกับผู้ด้อยโอกาสพิการทางสายตาทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายนพดลพบปี 54 เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ สน.พญาไท ก่อนหน้านี้เคยถูกจับคดีเดียวกันในพื้นที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ส่วนสาเหตุที่เลือกมาก่อเหตุบริเวณดังกล่าว เพราะมีเหยื่อเยอะ ประกอบกับคุ้นเคยเส้นทางเคยก่อเหตุบริเวณดังกล่าว และรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี