หนุ่มอ้างเป็นผู้กำกับ หลอกเหยื่อออกใบอนุญาตเปิดบ่อนปลากัดได้ สูญเงินนับแสน

วันที่ 13 ก.ค. 60 ที่ห้องกองกำลังรักษาความสงบประจำ จ.หนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าฯ หนองคาย นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมือง รักษาการปลัด จ.หนองคาย นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอท่าบ่อ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.อ.ครรชิต ประสันสอย รองผบก.กกล.รส.จ.หนองคาย ได้ร่วมกันสอบปากคำ นายบัลลังก์ อุ่นจิตร อายุ 45 ปี ชาว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากนายชาญชัย ภูงาม อายุ 59 ปี ชาว ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ให้ช่วยตรวจใบอนุญาตเปิดสถานที่ฝึกซ้อมปลากัดเพื่อเป็นการอนุรักษ์ ว่าเป็นใบอนุญาตปลอมหรือไม่ ซึ่งตรวจสอบแล้วพบเป็นใบอนุญาตปลอม จึงได้เรียกตัวนายบัลลังก์ อุ่นจิตร มาสอบ
นายชาญชัย เล่าว่าเดือน ธ.ค.59 นายบัลลังก์ เข้ามาตีสนิทอ้างว่าเพิ่งได้รับตำแหน่งเป็นผู้กำกับ ตชด.24 ค่ายเสนีย์ ที่ จ.อุดรฯ สามารถออกใบอนุญาตเปิดบ่อนปลากัดได้ ด้วยความที่ชอบแข่งปลากัดและอยากได้ใบอนุญาตเพื่อจะมาเปิดสถานที่ฝึกซ้อมแข่งปลากัดของตัวเอง จึงหลงเชื่อ ให้นายบัลลังก์ เดินเรื่องให้

ซึ่งนายบัลลังก์ บอกว่าต้องมีค่าใช้จ่าย 26,850 บาท จึงทยอยจ่ายให้จนครบ ไม่นานนายบัลลังก์ ได้นำใบอนุญาตมาให้ โดยไม่เคยเห็นใบอนุญาตของจริงมาก่อนก็คิดว่าเป็นของจริง หลังจากนั้นนายบัลลังก์ จะส่งไลน์มาหาเป็นประจำ อ้างว่ารู้จักกับผู้ว่าฯ หนองคาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรหนองคาย นายทหารยศใหญ่ๆ ทุกครั้งจะให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้ ส่วนใหญ่จะอ้างว่าบุคคลเหล่านี้ต้องการเงิน จึงหลงเชื่อโอนให้ครั้งละ 3,000 20,000 บาท รวม 8 ครั้ง เป็นเงินรวม 120,650 บาท ระยะหลังเริ่มสงสัยจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้จนทราบว่าเป็นใบอนุญาตปลอม จึงไปแจ้งความข้อหาฉ้อโกงไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.60
จากการสอบถามนายบัลลังก์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งพูดจาวกวน อ้างว่า เรื่องราวทั้งหมดมีเพื่อนของตนอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่ลาว บอกให้ทำข้อความต่างๆ เป็นเพื่อนบอกให้พิมพ์ โดยที่ตัวเองไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว
ด้านนายสุชาติ ผู้ว่าฯ หนองคาย กล่าวว่า การกระทำของนายบัลลังก์ ถือเป็นการหลอกลวง แอบอ้างว่ารู้จักตนเอง รู้จักกับผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดหนองคาย หลอกจนเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ และเมื่อตรวจสอบจากข้อความที่มีพูดคุยหลอกเหยื่อโอนเงินก็พบว่ามีผู้ที่นายบัลลังก์แอบอ้างถึงหลายคน ก็จะให้บุคคล ส่วนราชการและหน่วยงานที่ถูกพาดพิงไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ในขณะที่ พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองถูกพาดพิงหลายครั้ง ใช้ตำแหน่งของตนเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งจะแจ้งความดำเนินคดีด้วย เช่นกัน