svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง

13 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ท่ี่ สน.โชคชัย เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 12 กรกฎาคม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รองผบก.น.4 พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.น. 4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.พรทวี สมวงศ์ รอง ผกก.ป.สน.โชคชัย พ.ต.ต.อภิโชค ขนบดี สว.สส สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.โชคชัย

ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งทุบกระจกรถหรู ประกอบด้วยนายโชติวรรธน์ หรือเอก กลิ่นเกลี้ยง อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1568/2560 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ในข้อหา "ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป " โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถศูนย์การค้าซีดีซี โซน ซี แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ และนายณัฐวัฒน์ หรือไก่ หมื่นพินิจ อายุ 23 ปี โดยจับกุมได้ที่ลาดพร้าวแกรนวิลล์ กลางซอยลาดพร้าว 81 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางกว่า 100 รายการ

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กรกฎคม เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 16.00 น. ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ สีดำ มาจอดที่ลานจอดรถด้านหลังศูนย์การค้าซีดีซี แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ได้กลับมาที่รถเพื่อจะกลับที่พัก จึงพบว่ากระจกรถยนต์ด้านหน้าข้างคนขับคันแตก ตรวจสอบทรัพย์สินภายในรถพบว่ากระเป๋าถือยี่ห้อ FENDI สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ และกระเป๋าใส่เงินยี่ห้อ HERNES สีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ ได้หายไป

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่าเวลาประมาณ 16.53 น. มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีขาว-ส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดบริเวณใกล้กับที่รถยนต์ของผู้เสียหายจอดอยู่ จากนั้นคนซ้อนท้ายได้เดินเข้ามาที่บริเวณกระจกรถด้านหน้าข้างคนขับของรถยนต์ผู้เสียหาย แล้วลงมืองัดกระจกแล้วเอาทรัพย์สินในรถยนต์ของผู้เสียหายไป

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง

เจ้าหน้าที่จึงติดตามคนร้ายตามเส้นทางหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุได้พักอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 174 ซอยลาดพร้าว 81 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย จึงได้นำกำลังลงพื้นที่พร้อมนำหมายค้นศาลอาญาที่ 267/2560 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 เข้าไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัวนายโชติวรรธน์ได้ ผลการตรวจค้นพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ และพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีขาว-ส้ม ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุทุบกระจกรถ

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง

จากการสอบสวนทราบว่านายณัฐวัฒน์ ได้รู้จักกับนายบดินทร์ภัทร์หรือเอส กลิ่นเกลี้ยงที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ต่อมานายณัฐวัฒน์ ได้ติดต่อของานทำกับนายบดินทร์ภัทร์ โดยนายบดินทร์ภัทร์ได้ให้นายณัฐวัฒน์มาทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์หารถยนต์เป้าหมายที่จะทุบกระจกรถให้ โดยใช้รถจักรยานยนต์พีซีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นของคนรู้จักนายณัฐวัฒน์และให้นายณัฐวัฒน์ใช้ประจำมาก่อเหตุ โดยนายบดินทร์ภัทร์จะเป็นคนสั่งการว่าจะให้ขับขี่ไปในทางใดและเป็นผู้เลือกเป้าหมาย เมื่อพบเป้าหมายแล้วนายบดินทร์ภัทร์จะแจ้งให้นายณัฐวัฒน์หยุดรถ และจะลงไปก่อเหตุใช้ไขควงปากแบนงัดและทุบกระจกรถยนต์ แล้วเอาทรัพย์สินออกมา จากนั้นได้กลับมาซ้อนท้ายนายณัฐวัฒน์เพื่อหลบหนีหรือหาเป้าหมายใหม่ ซึ่งขณะซ้อนท้ายนั้น นายบดินทร์ภัทร์จะทำการค้นดูสิ่งของมีค่าในกระเป๋าที่ลักมาได้เองทั้งหมด หากไม่มีเป้าหมายเพิ่มก็จะสั่งให้ขี่รถเข้าบ้านเลขที่ 174 ซ.ลาดพร้าว 81 ซึ่งเป็นบ้านของนายบดินทร์ภัทร์

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง

จากนั้นนายบดินทร์ภัทร์จะทำการคัดแยกสิ่งของและนำไปขายเองหรือจำหน่ายเอง โดยนายณัฐวัฒน์ไม่ทราบรายละเอียด โดยนายบดินทร์ภัทร์จะให้ค่าจ้างเป็นเงินสด 1,000 บาทต่อวัน รวมทั้งเติมน้ำมันให้เต็มถังทุกครั้ง โดยในการก่อเหตุนายบดินทร์ภัทร์จะสวมถุงมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันรอยลายนิ้วมือติดรถ และจะทำการถอดป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ก่อนออกก่อเหตุทุกครั้ง และมักเลือกรถยนต์หรูหรือมีราคาแพงและดูเป็นรถใหม่ทุกครั้ง ส่วนทรัพย์สินหรือกระเป๋าที่ไม่ต้องการก็จะนำไปเอาหินถ่วงโยนทิ้งน้ำในทันที ส่วนกรณีที่นายโชติวรรธน์ได้ขับขี่รถป็อบมาเจอรถเป้าหมายจอดอยู่เป็นรถหรู จึงเลี้ยวกลับรถไปรับนายบดินทร์ภัทร์ มายังรถเป้าหมาย และนายบดินทร์ภัทร์ จะเป็นผู้ลงไปก่อเหตุเสร็จแล้วจึงกลับมาซ้อนท้ายนายโชติวรรธน์ กลับเข้าบ้านพัก ทั้งนี้นายบดินทร์ภัทร์ จะเป็นตัวหลักในการหารถเป้าหมาย โดยการวิ่งจากบ้านไปออกกำลังกายในละแวกใกล้เลียบทางด่วน เมื่อเจอเป้าหมายก็จะเรียกรถแท๊กซี่นั่งกลับเข้าบ้านแล้วให้คนขับขี่ออกไปก่อเหตุ โดยจะทำหน้าที่นั่งซ้อนท้ายจยย. ที่มีนายณัฐวัฒน์ หรือนายโชติวรรธน์ เป็นคนขับ

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง

นายโชติวรรธน์ รับสารภาพว่า หลังจากได้ก่อเหตุเสร็จจะขับรถหลบหนีเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าวขณะที่ นายณัฐวัฒน์ รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุทุบกระจกรถจริง โดยได้ก่อเหตุตามพื้นที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ สน.โชคชัย ก่อเหตุร่วมกับนายบดินทร์ภัทร์ หรือเอส กลิ่นเกลี้ยง ขับรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีขาว - ส้ม ครั้งแรกทุบกระจกรถบีเอ็มดับเบิลยู สีขาวบริเวณลานกีฬาใต้ทางด่วน ครั้งที่ 2 ทุบกระจกรถมินิคูเปอร์ บริเวณริมถนนซอยโยธินพัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ครั้งที่ 3 ทุบกระจกรถบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ ภายในซอยลาดพร้าว 87 ก่อนถึงแยก 23 ใกล้ไซค์งานก่อสร้าง ครั้งที่ 4 ทุบกระจกรถเบนซ์ สีดำ บริเวณลานจอดรถห้างซีดีซี ครั้งที่ 5 ทุบกระจกรถเบนซ์ สีดำบริเวณลานจอดรถโฮมโปร นอกจากนี้ยังก่อเหตุในท้องที่อื่นทั้งสน.คันนายาว สน.วังทองหลาง สน.โครกคราม สน.บางซื่อสน.บางเขน สน.สายไหม สภ.บางศรีเมือง สภ.คลองข่อย สภ.เมืองนนท์ สภ.คูคต สน.ทุ่งสองห้อง
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัตินายโชติวรรธน์ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ ,รับของโจร,ทำให้เสียทรัพย์ "ในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 52 " ร่วมกันลักทรัพย์ " ในพื้นที่ สภ.เมืองสกลนครเมื่อปี 52 , "ลักทรัพย์ " ในพื้นที่ สน.โคกคราม เมื่อปี 54 และ "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน " ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ปี 54

รวบแก๊งทุบกระจกรถหรูฉกทรัพย์ เน้นรถหรูราคาแพง จอดตามห้างดัง


ส่วนนายณัฐวัฒน์ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา " ลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน" พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง ," ครอบครองยาเสพติด " พื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ " เสพยาเสพติด " พื้นที่ สภ.แหลมฉบังขณะที่นายบดินทร์ภัทร์ หรือเอส กลิ่นเกลี้ยง ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ,รับของโจร,ทำให้เสียทรัพย์" ในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 52 , "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน " ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ปี 54เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากับนายโชติวรรธน์ในข้อหาร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปนายณัฐวัฒน์ แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป, โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประสาน สน.และ สภ.ต่าง ๆ รวมถึงประชาชนผู้เสียหายให้เข้ามาดูผู้ต้องหา และ ทรัพย์สินรายการต่างๆ ที่ตรวจยึดได้ที่ สน.โชคชัย

logoline