"Airbnb" ธุรกิจที่พักทางเลือกใหม่ สะท้านวงการโรงแรม อสังหาฯ
[สกู๊ปพิเศษ] ด้วยระดับความนิยม Airbnb ที่กำลังฉุดแรงไม่อยู่ทั่วโลกจึงส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์สืบเนื่องจากมีความคิดว่าจะทำให้เกิดภาวะแก่งแย่งตลาดที่อยู่อาศัยกันอันส่งผลกระทบด้านลบต่อคุณภาพของที่พักอาศัย
ทำความรู้จัก Airbnb
"Airbnb"เป็นเว็บไซต์ใจดีที่เปิดโอกาสให้เจ้าของบ้าน คอนโดอพาร์ทเม้นท์จากทั่วทุกมุมโลก มาลงโฆษณาแสดงความน่าสนใจที่อยู่อาศัยของตนเองเพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวคลิกเข้ามาดู พร้อมคัดเลือกผู้ที่จะเข้าพักผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน ทั้งนี้ภายหลังจากเข้าพักแล้ว ยังสามารถแสดงความคิดเห็นแชร์ประสบการณ์ตนเองลงไปในโลกโซเชียลได้อีกด้วย โดยข้อดีของห้องพักอาศัยนี้จะมีราคาถูกกว่าหรือราว 50% ของโรงแรมทั่วไปเหตุนี้เองจึงทำให้ค่อนข้างได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวซึ่งสำหรับประเทศไทยจากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ทำการวิเคราะห์แล้วพบว่าส่วนใหญ่กลุ่มที่เข้ามาใช้บริการหาห้องพักจากช่องทางดังกล่าวจะเป็นชาวจีนทั้งนี้มีสถิติเข้ามาใช้บริการมากขึ้นกว่า 1 ล้านคนส่งผลให้เกิดการขยายธุรกิจดังกล่าวในกรุงเทพฯ กว่า 100% จนทำให้มีการตั้งแง่จากกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในไทยและต่างประเทศถึงภาวะการแย่งตลาดกันระหว่าง Airbnb โรงแรมและธุรกิจอสังหาฯ อันนำมาซึ่งการปราบปรามธุรกิจดังกล่าวในบางประเทศหนึ่งในนั้นมีไทยรวมอยู่ด้วย
ผลกระทบด้านต่างๆ จาก Airbnb
ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ Airbnb ถูกก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคมเมื่อปี 2008 ในรัฐซานฟรานซิสโกและแคลิฟอร์เนีย สังเกตว่าหลังจากนั้นเกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจดังกล่าวในทั่วโลกซึ่งทำให้เกิดผลกระทบกับธุรกิจโรงแรมอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง-ล่าง สืบเนื่องจากมีราคาห้องพักใกล้เคียงกันทั้งนี้คำร้องเรียนอันถูกส่งมาที่ Airbnb มากที่สุดหนีไม่พ้นเรื่องแย่ง Market Share กับธุรกิจโรงแรมอย่างไม่ยุติธรรมสืบเนื่องจากเจ้าของห้องพัก Airbnb ปฏิบัติตามกฎหมายน้อยกว่าไม่ต้องเสียภาษี และไม่จำเป็นต้องเสียค่าปรับ ทั้งนี้ยังคงคำนึงถึงเรื่องสุขภาพความปลอดภัยในมาตรฐานเท่ากัน
นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบกับตลาดบ้านเช่าด้วยโดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่าง นครนิวยอร์กและซานฟรานซิสโกสืบเนื่องจากการปล่อยเช่าในระยะยาวลดน้อยลง ในขณะที่การให้เช่าแบบระยะสั้นอย่าง Airbnb กลับสวนกระแสเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาครวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวลดลงทั้งนี้หน่วยงาน Airbnb ได้ออกมาโต้แย้งถึงปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยในเมืองต่างๆเป็นผลมาจากนโยบายพัฒนาที่ดินมีข้อจำกัดมากกว่าปัญหาความต้องการซื้อหรือขายในตลาดเช่าบ้าน
กฎเกณฑ์ข้อบังคับที่เกิดขึ้น
นับตั้งแต่กระแสความนิยมการเข้าพัก Airbnb ได้แพร่หลายไปทั่วโลก จึงทำให้หน่วยงานภาครัฐต่างๆพยายามหากลวิธีรับมือ เพื่อเข้าควบคุมธุรกิจดังกล่าว ด้วยวิธีการหากเจ้าของบ้าน คอนโดฯ หรืออพาร์ทเม้นท์คนไหนเข้าร่วมธุรกิจดังกล่าว จำเป็นต้องเสียภาษีรวมไปถึงต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการเฉกเช่นเดียวกับโรงแรม โดยสำหรับในประเทศไทยธุรกิจดังกล่าวยังถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ดังที่เห็นมีการปราบปรามในจังหวัดภูเก็ตเหตุนี้เองจึงทำให้ธุรกิจ Airbnb จึงทำการปรับแผนธุรกิจให้อยู่รอดด้วยการออกกฎและมาตรฐานลงทะเบียนห้องพักที่เข้มงวดมากขึ้นอย่างในกรณีที่ประเทศญี่ปุ่นกำหนดระยะเวลาเข้าพักต้องมากกว่า 7 คืน ในขณะที่เมืองหลวงใหญ่อย่างนครนิวยอร์กและซานฟรานซิสโกกำหนดให้เจ้าของห้องและบ้านพัก สามารถลงทะเบียนปล่อยเช่าได้เพียงคนละ 1 ห้องเท่านั้น
ทิศทางของ Airbnb ในอนาคต
ทุกวันนี้แม้กระแสกฎระเบียบข้อบังคับในหลายประเทศเริ่มชะลอตัวไปประกอบกับธุรกิจ Airbnb มีการปรับกลยุทธ์ใหม่อันส่งผลให้ในอนาคตทิศทางของตลาดที่พักนี้เข้ามาแข่งขันกับธุรกิจโรงแรมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นจึงทำให้ในอนาคตอันใกล้ทิศทางของ Airbnb มีแนวโน้มขยายตลาดไปยังกลุ่มท่องเที่ยวเชิงธุรกิจสืบเนื่องจากปัจจุบัน มีการส่งสัญญาณมาแล้ว จากการร่วมมือทางธุรกิจกับ AmericanExpress Global Business travel, BCD Travel, และ CarlsonWagonlit Travel เหตุนี้เองจึงทำให้ EIC ได้แนะผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรวมถึงกลุ่มอสังหาฯควรปรับกลยุทธ์แผนธุรกิจตนเองใหม่ เพื่อจะสามารถแข่งขันกับ Airbnb ได้ในอนาคต
แม้ทุกวันนี้กระแสด้านลบของAirbnb ในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหรืออสังหาฯ ยังค่อนข้างคุกรุ่นอยู่แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำความนิยมชมชอบที่พักราคาถูกของ Airbnb จากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกน้อยลงแต่อย่างไร
เรื่องข้างต้นเขียนโดยอารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com
บทความข้างต้นเผยแพร่ครั้งแรกที่ DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์ ที่รวบรวม ข่าวอสังหาฯ คู่มือซื้อขาย และ รีวิวโครงการใหม่ ไว้กว่า 10,000 บทความ