svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

พบแล้วสาวไทยหายตัว 7 วัน เป็นศพถูกทิ้งในป่าละเมาะ ตร.เร่งตามหาแฟนต่างชาติ

09 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภูเก็ต - พบกลายเป็นศพ สาวไทยหายตัวนาน 7 วัน ถูกทิ้งในป่าละเมาะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตามหาแฟนชาวต่างชาติ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม 2560 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ปทักษ์ ขวัญนา รอง.ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ เดินทางไปตรวจสอบศพที่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นศพของ น.ส.พิชชา นามผดุง อายุ 35 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร ที่หลานสาวได้โพสต์เฟซบุ๊กตามหา
โดยระบุว่าหายออกจากห้องเช่าในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อ 7 วันที่แล้ว และญาติได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพบข้อมูลที่บ่งชี้ว่า จุดสุดท้ายที่รถซึ่งผู้สูญหายและแฟนหนุ่มชาวต่างชาติได้เช่าไว้ขับขี่หายเข้าไปในป่าละเมาะห่างจากถนนสายเหมืองเจ้าฟ้า-ม.อ.ภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เข้าไปประมาณ 20 เมตร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไประดมค้นหา กระทั่งพบสิ่งของถูกห่อไว้ด้วยเสื่อและมีกลิ่นเหม็นคล้ายศพ จึงเข้าไปตรวจสอบและนำออกมาจากป่า
จากการตรวจสอบพบว่าสิ่งของดังกล่าวซึ่งคาดว่าเป็นศพนั้น ถูกห่อด้วยเสื่อและพันด้วยสก็อตเทปสีเทา จำนวน 3 จุด คือ ส่วนปลายทั้ง 2 ข้าง และบริเวณตรงกลาง เปิดออกพบภายในเป็นศพหญิงสาว สวมเสื้อยืดสีเขียวขี้ม้า กางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำและตุ๊กตา 1 ตัว ถูกห่อด้วยผ้านวม ผ้าปูที่นอนและผ้าขนหนู สภาพศพเริ่มขึ้นอืดและเน่าเปื่อยโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าทำให้ดูไม่ออกว่าเป็นใคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้แจ้งประสานไปยัง พ.ต.ท.สนั่น จันทร์รงค์ รองผกก.สส.สภ.ฉลอง ร.ต.ท.ชนัตถ์ หงส์สิทธิชัยกุล พงส.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต สภ.ฉลอง แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย ญาติและเพื่อนของ น.ส.พิชชา นามผดุง ให้มาร่วมตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามในส่วนของญาติและเพื่อนๆ ของผู้สูญหาย เมื่อเห็นศพครั้งแรกต่างร้องให้ด้วยความเสียใจ พร้อมกับระบุว่าเป็นร่างของ น.ส.พิชชา ที่สูญหาย เพราะเห็นสีที่เล็บเท้า แต่เพื่อให้ชัดเจนได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่เปิดดูรอยสักที่บริเวณหัวไหล่ขวา ต้นคอ ด้านหลัง และบริเวณเอว ซึ่งพบว่าเป็นรอยสักของผู้สูญหาย โดยนำภาพถ่ายรอยสักของผู้สูญหายมายืนยัน แต่เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ไม่ใช่ของนางสาวพิชชาเพราะตัวใหญ่ซึ่งน่าจะเป็นของแฟนหนุ่มที่ขณะนี้ได้หายตัวไปแล้ว เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงได้นำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง
สอบถามนางสาวบังเอิญ อ่อนโคราช พี่สาวของผู้เสียชีวิตทราบว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ยังติดต่อกับนางสาวพิชชาได้ และยังส่งไลน์พูดคุยกับพี่สาวซึ่งอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช บอกว่าคิดถึงบ้าน อยากกลับบ้าน ส่วนเพื่อนบอกว่าในวันเดียวกันได้โทรศัพท์ไปหานางสาวพิชชา แต่แฟนหนุ่มชาวต่างชาติเป็นคนรับสาย และบอกว่าไม่สบายกินยานอนหลับไปแล้ว ทุกคนไม่ได้เอะใจ กระทั่งโทรศัพท์ไปหาอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม แฟนหนุ่มเป็นคนรับสายอีก และบอกว่านางสาวพิชชาเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หลังจากนั้นไม่มีใครสามารถติดต่อได้อีกเลย จึงได้แจ้งให้ญาติทราบและสอบถามไปยังบ้านที่ต่างจังหวัดก็ไม่พบ จึงได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ฉลอง เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัว แต่สุดท้ายพบกลายเป็นศพ ส่วนแฟนหนุ่มชาวต่างชาตินั้นไม่มีใครพบตัวมาหลายวันแล้ว
ขณะที่นายลำดวน ศรีดอนทราย ลุงของนางสาวพิชชา กล่าวว่า หลานสาวทำงานอยู่ที่ร้านเสริมสวยในพื้นที่ ต.ฉลอง ส่วนแฟนหนุ่มชาวต่างชาติเป็นเจ้าของยิมในพื้นที่ตำบลราไวย์ รู้จักกันมาประมาณ 4-5 เดือน และเช่าบ้านอยู่ด้วยกันในพื้นที่ ต.ราไวย์ แต่ระยะหลังแฟนหนุ่มไม่ได้ทำงานและเลิกกิจการไป ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไร แต่สอบถามเพื่อนข้างบ้านทราบว่าก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 30 มิถุนายนได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันก่อนจะเงียบไป และไม่มีใครพบเห็น น.ส.พิชชาอีกเลย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ศพดังกล่าวถูกคนร้ายฆ่าตายมาจากที่อื่น และนำมาทิ้งในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตนำโดย พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ปทักษ์ ขวัญนา รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต และ ชุดสืบสวน สภ.ฉลอง ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านพักของผู้เสียชีวิต และแฟนหนุ่มซึ่งเป็นชาวต่างชาติเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามหาตัวแฟนหนุ่มที่หายตัวไป พร้อมประสานกับทางด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อตรวจสอบด้วย และจะได้นำตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.พิชชาต่อไป

logoline