svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์โหมโรงก่อนพบปูตินเป็นครั้งแรก บอกรัสเซียอาจจะแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐปีที่แล้ว

07 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์โหมโรงก่อนร่วมประชุม G-20 บอกรัสเซียอาจจะแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปีที่แล้วจากหน่วยงาน 3-4 แห่ง และอาจจะมีประเทศอื่นที่เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐด้วย ท่ามกลางการเตรียมตัวพบกันระหว่างผู้นำสองประเทศที่เด็มไปด้วยบรรยากาศความตึงเครียดจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศซีเรีย วิกฤติยูเครน รวมทั้งกระแสความกดดันเรื่องรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่ผ่านมา

ส่วนบรรยากาศรอบนอกเวทีประชุมผู้นำกลุ่ม G-20 ที่เมืองฮัมบรูก เยอรมนี ระหว่างวันที่ 7-8 กรกฎาคมนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงระบบทุนนิยมชาวเยอรมันและจากชาติอื่นในยุโรปนับหมื่นคนมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ฉีดน้ำและยิงแก๊สพริกไทยเพื่อยุติการกระทำรุนแรงของกลุ่มผู้ประท้วงที่ทำการขวางปาด้วยไม้และขวด ทั้งนี้คาดว่าผู้ประท้วงจะมีเพิ่มขึ้นมากถึง 100,000 คนที่ไม่พอใจต่อความล้มเหลวของระบบทุนนิยมที่ทำลายเศรษฐกิจของโลก
ขณะที่ราคาหุ้น-บอนด์-ดอลลาร์-ทอง-น้ำมัน ปรับตัวลดลง หลังการเทขายของนักลงทุน ก่อนเปิดฉากการประชุมผู้นำกลุ่ม G-20 ในวันนี้ โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในตลาด Nasdaq ร่วงลงอย่างต่อเนื่องจนถึงเมื่อวานนี้ ลดลงถึง 4.9% จากระดับสูงสุดเมิ่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา

1.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างเซอร์ไพรส์ก่อนที่เวทีประชุม G-20 จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ กล่าวว่ารัสเซียอาจจะแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปีที่แล้วจากหน่วยงาน 3-4 แห่ง และอาจจะมีประเทศอื่นที่เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐด้วยเช่นกัน ท่ามกลางการเตรียมตัวพบกันรอบนอกระหว่างผู้นำสองประเทศที่เด็มไปด้วยบรรยากาศความตึงเครียดจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศซีเรีย วิกฤติยูเครน รวมทั้งกระแสความกดดันเรื่องรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่ผ่านมา
โดย Rex Tillerson รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า ผู้นำสหรัฐเตรียมหารือกับผู้นำรัสเซียในประเด็นการเสริมสร้างความมั่นคงและการกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าของซีเรีย ซึ่งอาจมีการแต่งตั้งผู้สังเกตการณ์ในช่วงการหยุดยิง และการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ซีเรีย รวมถึงแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับรัสเซียในประเด็นอื่นๆ

ท่ามกลางทางการเยอรมนีตรึงกำลังตำรวจ 20,000 นายเข้ารักษาความสงบในเมืองฮัมบรูก ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด G-20 ในช่วงสุดสีปดาห์นี้ เพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ประท้วงที่คาดว่ามีจะมีกว่า 100,000 คน โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ประท้วงราว 8,000 คนเตรียมก่อเหตุรุนแรง หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงเตรียมเดินขบวนครั้งใหญ่โดยใช้ชื่อว่า G-20: Welcome to Hell ที่มีเป้าประท้วง 3 ผู้นำคือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ของตุรกี
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ที่เพิ่งเดินทางเยือนโปแลนด์เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์จากที่ห่างเหินกันนับตั้งแต่โปแลนด์ถูกนาซียึดครองจนกระทั่งมีการปลอดปล่อยในช่วงปี 1944 โดยทรัมป์นัดหมายที่จะพบปะกับแองเกลา เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เจรจากันแบบทวิภาคีก่อนการประชุม G-20 หลังจากที่ผู้นำเยอรมนีได้เคยแสดงความผิดหวังและกล่าววิจารณ์อย่างรุนแรงว่ายุโรปต้องพึ่งพาตัวเองให้อยู่รอด เนื่องจากกรณีที่ทรัมป์ได้ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีสเพื่อลดภาวะโลกร้อนในช่วงการประชุมกลุ่ม G-7 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

2.ท่ามกลางความตึงเครียดจากยิงทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ของเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร ซึ่งอาจถูกยกขึ้นเป็นวาระร้อนในการหารือเวที G-20 ช่วงสุดสัปดาห์นี้นั้น ขณะที่ทางการสหรัฐเดินหน้าสืบค้นการระดมทุนของเกาหลีเหนือเพื่อนำมาใช้พัฒนาระบบขีปนาวุธนิวเคลียร์ โดยชี้ว่า มีกระแสการโอนเงินเปลี่ยนมือมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2009 ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือผ่านกระบวนการของธนาคาร 8 แห่ง

โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารจากหลายประเทศจำนวน 8 แห่งนั้นประกอบด้วย Bank of America, JPMorgan, Wells Fargo, Bank of New York Mellon, Citigroup, Deutsche Bank, Standard Chartered และ HSBC อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีการชี้แจงใดๆ จากธนาคารที่มีชื่อปรากฏดังกล่าว

3.กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เรียกร้อง G-20 ร่วมมือกันลดภาวะที่ไร้ดุลยภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจทั่วโลกมีการฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่แรงขับเคลื่อนกลับเพิ่มความเปราะบางและส่งผลให้เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะที่ขาดภาวะสมดุล
ทั้งนี้ IMF พบว่า ความคืบหน้าในการปรับลดภาวะที่ไร้สมดุลของเศรษฐกิจโลกได้หยุดชะงักลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหากปล่อยให้มีความยืดเยื้อ อาจจะทำให้เกิดแรงฉุดที่มากขึ้นในอนาคต โดยแนะว่าประเทศที่มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมาก อย่างเช่นเยอรมนีและเกาหลีใต้ควรหันมาใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐหรือเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ ส่วนประเทศที่มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่มากเกินไป เช่น สหรัฐและอังกฤษก็ควรเสริมสร้างสถานะทางการคลังให้แข็งแกร่ง
โดยที่คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการใหญ่ของ IMF กล่าวว่า ประเทศที่มีการเกินดุลและขาดดุลบัญชีเดินสะพัดควรจะยอมรับปัญหาในเวลานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้การประชุม G-20 ในครั้งนี้ควรถือเป็นโอกาสที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการค้าโลก โดยให้คำมั่นสัญญาที่จะใช้กฎระเบียบสนับสนุนการแข่งขันและเพิ่มบทบาทตลาดการค้าโลก

4.ราคาหุ้น-บอนด์-ดอลลาร์-ทอง-น้ำมัน ปรับตัวลดลง หลังการเทขายของนักลงทุน ก่อนเปิดฉากการประชุมผู้นำกลุ่ม G-20 ในวันนี้ โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในตลาด Nasdaq ร่วงลงอย่างต่อเนื่องจนถึงเมื่อวานนี้ ลดลงถึง 4.9% จากระดับสูงสุดเมิ่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสฯ มีแรงขายต่เนื่องนั้น หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐลดลง 1.9% ส่งผล S&P 500 ปรับตัวลดลง 0.9% สู่ 2,409 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเส้นกราฟราคา 50 วันที่ระดับ 2,413 ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสารร่วงลง 2.3% ส่งผล Nasdaq ลดลง 1.0% รวมทั้งดาวโจนส์ร่วงลง 158 จุดหรือ 0.74% สู่ระดับ 21,320 ทางด้านหุ้นยุโรป Stoxx 600 ร่วงลง 0.7% สำหรับหุ้นตลาดเกิดใหม่ลดลง 0.4%
เงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าลง 0.3% ที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ 95.93 สวนทางเงินยูโรแข็งค่า 0.6% ที่ 1.1424 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่า 0.3% ที่ 1.2967 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาบอนด์รัฐบาลสหรัฐมีราคาร่วงลงแต่บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสวนทางที่ 2.37% ส่วนราคาน้ำมัน WTI ทรงตัวที่ 45.52 ดอลลาร์จ่อบาร์เรล โดยอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์มาเป็นเวลา 6 สัปดาห์แล้ว สไหรับราคาทองลดลง 0.2% สู่ 1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์

5.กาตาร์เจอปัญหาวิกฤติขาดแคลนเงินสดระยะสั้น ทำให้เกิดการตึงตัวทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคารพุ่งขึ้น 1% เหนืออัตรา LIBOR ที่ระดับ 2.44% นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ที่กาตาร์ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจาก AA มาอยู่ที่ AA-
ขณะที่ระบบแบงก์พึ่งพาเงินกู้ในตลาดซื้อคืนพันธบัตร หรือ Repo จากธนาคารกลางของกาตาร์ หรือ Qatar National Bank เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่อง โดยที่ธนาคารกลางกาตาร์จำกัดไม่ให้แต่ละแบงก์กู้เกิน 2% ของจำนวนเงินฝากของภาคเอกชน
ทั้งนี้ แบงก์ในกาตาร์มีการพึ่งพาแหล่งเงินนอกประเทศในสัดส่วนถึง 57% มีการพึ่งพาจาก GCC หรือ Gulf Co-operation Council ในสัดส่วน 24% และเป็นการพี่งพา Qatar National Bank เพียง 5%

logoline