svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

นักลงทุนลดถือครองสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เฟดเตือนตลาดการเงินสหรัฐเปราะบางท่ามกลางราคาพุ่งสูงเกินไป

06 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์การเงินหุ้น-บอนด์ที่อ่อนตัวลง เนื่องจากมีการลดสัดส่วนลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์กลับเข้าซื้อเงินเยนที่แข็งค่ามากขึ้นจากระดับ 113.50 มาอยู่ที่ 113 และทองคำบางส่วน พร้อมเทขายบอนด์ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หลังจากเกิดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีร้อนแรงมากขึ้น จากการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร ขณะที่สหรัฐร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ยิงขีปนาวุธตอบโต้แถบชายแดนเพื่อส่งสัญญาณเตือนไปถึงผู้นำเกาหลีเหนือ

ขณะเดียวกัน นิกกี้ เฮลีย์ เอกอัคราชทูตสหรัฐในสหประชาชาติ กล่าวในระหว่างการประชุม UNSC ว่า ทางการสหรัฐเตรียมใช้กำลังทหารต่อเกาหลีเหนือ หากยังไม่ล้มเลิกโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ โดยพร้อมจะยื่นข้อเสนอคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ในอีกไม่กี่วันนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกลงในน่านน้ำญี่ปุ่น

ขณะที่รายงาน Fed Minutes สรุปผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ชี้ว่าเสถียรภาพทางการเงินสหรัฐเริ่มมีความเปราะบาง สาเหตุจากสภาพคล่องลดลงทำให้ตลาดการเงินเกิดความผันผวนแม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอบ่างร้อนแรงจนมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเฟดเตรียมประกาศแผนปฏิบัติการเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น หรือ QT (Quantitative Tightening) ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อลดภาระอัดฉีดเงินในงบดุลลดลงเดือนละ 1-5 หมื่นดอลลาร์ จากยอดคงค้างที่มีอยู่ถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ รัฐสภาของแอฟริกาใต้กำลังเสนอกฎหมายยึด The Reserve Bank ซึ่งมีเอกชนเป็นเจ้าของมาเป็นของรัฐ โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด เพื่อให้เป็นธนาคารกลางของประเทศที่สามารถทำหน้าที่กำหนดแนวนโยบายการเงินทึ่ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นอิสระ หลังจากที่ค่าเงิน Rand ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของประเทศ ต้องประสบกับการดิ่งค่าลงอย่างรุนแรง

1.นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์การเงินอ่อนตัวลง เนื่องจากมีการลดสัดส่วนลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์กลับเข้าซื้อเงินเยนที่แข็งค่ามาดขึ้นจาดระดับ 113.50 มาอยู่ที่ 113 และทองคำบางส่วนแต่ราคาทองยังคงทรงตัวที่ 1,226 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รวมทั้งราคาน้ำมันที่ร่วงลงเกือย 2 ดอลลาร์มายู่ที่ 45 ดอลลาร์ต่อบาร์รล
ขณะเดียวกันก็มีการเทขายบอนด์ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ส่งผลต่อกระเสเงินทุนไหลออกก้อนโต ในภาวะการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากเกิดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีร้อนแรงมากขึ้น จากการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร ขณะที่สหรัฐร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ยิงขีปนาวุธตอบโต้แถบชายแดนเพื่อส่งสัญญาณเตือนไปถึงผู้นำเกาหลีเหนือ
ขณะที่รายงาน Fed Minutes สรุปผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน เริ่มเตือนเรื่องเสถียรภาพทางการเงินสหรัฐ (Financial Stability Concerns) มีความเปราะบาง สาเหตุจากสภาพคล่องลดลง ทำให้ตลาดการเงินเกิดความผันผวนแม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างร้อนแรงจนมากเกินไป (High Valuations) อยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้ เฟดเตรียมประกาศแผนปฏิบัติการในการเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น หรือ QT (Quantitative Tightening) เพื่อลดภาระอัดฉีดเงินในงบดุลลดลงเดือนละ 1-5 หมื่นดอลลาร์ จากยอดคงค้างที่มีอยู่ถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินมาตรการ QT โดยจะมีการขายบอนด์และตราสารการเงินที่ถือครองอยู่ในเดือนกันยายนนี้

2.ทางด้าน นิกกี้ เฮลีย์ เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ได้กล่าวในระหว่างการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่า ทางการสหรัฐเตรียมใช้กำลังทหารต่อเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยังไม่ล้มเลิกโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ พร้อมกันนี้ทางการสหรัฐจะยื่นข้อเสนอคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ในอีกไม่กี่วันนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกลงในน่านน้ำญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
โดยเธอระบุว่า การกระทำของเกาหลีเหนือนั้น เป็นการเร่งปิดโอกาสในการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการทูต และสหรัฐอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมที่จะใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปกป้องประเทศและชาติพันธมิตร ซึ่งหนึ่งในศักยภาพที่เรามีอยู่ก็คือ การใช้กำลังทางทหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นหากจำเป็น แต่หวังว่าจะไม่ต้องทำเช่นนั้น
โดยสหรัฐต้องการผลักดันให้ที่ประชุมสหประชาชาติกำหนดบทลงโทษเกาหลีเหนือที่เป็น Global Actions โดยเพาะการคว่ำบาตรทางการค้าที่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อจีนที่มีการค้าหลักกับเกาหลีเหนือที่สัดส่วนสูงถึง 40% ในขณะนี้ รวมถึงอีกหลายประเทศที่ค้าขายกับเกาหลีเหนือ เช่น อินเดีย ฟิลิปปินส์ รัสเซีย ไทย และปากีสถาน

3.ขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐเปิดฉากซ้อมรบด้วยขีปนาวุธเมื่อวันพุธ หนึ่งวันหลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้และมีขีดความสามารถในการโจมตีได้ไกลถึงฝั่งสหรัฐ โดยที่คณะเสนาธิการร่วมของกองทัพเกาหลีใต้ ระบุในแถลงการณ์ว่า หน่วยขีปนาวุธของเกาหลีใต้และสหรัฐได้ทำการซ้อมรบด้วยขีปนาวุธในบริเวณทะเลตะวันออก เพื่อตอบโต้พฤติการณ์ยั่วยุของเกาหลีเหนือจากการที่ทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง
ในการซ้อมรบครั้งนี้ได้ใช้ขีปนาวุธ "ฮยุนมู-2" ของเกาหลีใต้ และระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีแบบพื้นสู่พื้น ATACMS ของกองทัพสหรัฐประจำเกาหลีใต้ เพื่อแสดงแสนยานุภาพในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งการซ้อมยิงขีปนาวุธครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่น "ฮวาซอง-14" เมื่อวันอังคารโดยพุ่งในระดับความสูงถึง 2,802 กิโลเมตรจากพื้นดิน และเคลื่อนที่ไปในอากาศรวมระยะทาง 933 กิโลเมตร ก่อนไปตกในทะเลญี่ปุ่นและใกล้เขตเศรษฐกิจพิเศษ
ขณะที่เพนตากอนมั่นใจว่า กองทัพสหรัฐยังมีเครื่องมือด้านขีปนาวุธที่จะสามารถปกป้องสหรัฐจากจรวดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ยิงเข้ามา ถึงแม้ว่าทางการเกาหลีเหนือจะประกาศว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เป็นครั้งแรกที่ยิงได้ไกลถึง 6,700 กิโลเมตรและมีศักยภาพโจมตีได้ไกลถึงรัฐอลาสกา 4.รัฐสภาของแอฟรริกาใต้เตรียมออกกฎหมายยึด The Reserve Bank ซึ่งมีเอกชนเป็นเจ้าของมาเป็นของรัฐ โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด เพื่อให้เป็นธนาคารกลางของประเทศที่สามารถทำหน้าที่กำหนดแนวนโยบายการเงินทึ่ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นอิสระ
หลังจากที่ค่าเงิน Rand ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของแอฟริกาใต้ดิ่งลง 3% ในการซื้อขายระหว่างวันสู่ระดับ 13.52 ต่อดอลลาร์ จากที่มีการเคลื่อนไหวในระดับ 13.14-13.21 Rand ต่อดอลลาร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ทั้งนี้ The Reserve Bank of South Africa ไม่ได้มีฐานะที่เป็นธนาคารกลางของรัฐ เนื่องจากมีเอกชนเป็นเจ้าของ โดยเป็นการถือหุ้นของภาคเอกชนจำนวน 600 ราย ท่ามกลางความเสี่ยงของค่าเงิน Rand ที่ต้องประสบกับการดิ่งค่าลงอย่างรุนแรง โดยที่การทำหน้าที่ของ The Reserve Bank ในช่วงที่ผ่านมากลับไม่สามารถส่งสัญญาณในนโยบายใดๆ ได้เกี่ยวกับเสถียรภาพของเงิน Rand ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของประเทศ


5.เวเนซูเอล่าเดือด! เมื่อกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลราว 100 คนใช้ไม้และท่อแป๊ปบุกเข้าไปในที่ทำการรัฐสภาซึ่งเป็นที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันพุธ ก่อนลงมือทุบตีทำร้าย ส.ส.ฝ่ายค้าน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งบางรายมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะ
หลังจากที่เวเนซูเอล่าต้องเผชิญกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 เดือน จนมีชาวเวเนซูเอล่าต้องเสียชีวิตในเหตุปะทะกับตำรวจในช่วงที่ผ่านมาแล้วถึง 91 คน
ขณะที่ประเทศต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดภาวะขาดแคลนปัจจัยสี่ในการยังชีพ ทั้งอาหาร และยารักษาโรค รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นพื้นฐาน เช่น สบู่ หรือกระดาษทิชชู
โดยผู้สังเกตการทางการเมืองเชื่อว่า เหตุการบุกรัฐสภาครั้งนี้อยู่ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ซึ่งถูกฝ่ายค้านเรียกร้องให้จัดเลือกตั้งใหม่ เพื่อบีบบังคับให้เขาลงจากตำแหน่งในการบริหารประเทศ

logoline