"น้องบีม-แม่" พบสภาทนาย เซ็นใบคำร้องเอาผิดวินัย-อาญา ทนายโกง 5 ล้าน

นายถวัลย์ กล่าวว่า ทางสภาทนายความได้ร่วมกับเนติบัณฑิตยสภาและกระทรวงยุติธรรม แต่งตั้งทนายความเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา จึงต้องเชิญผู้เสียหายมา เพื่อเซ็นใบแต่งตั้งทนายความในวันนี้(4 ก.ค.) และฝากถึง นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ให้มาพบเจ้าหน้าที่หรือมาที่สภาทนายความ เพื่อพูดคุยและช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งเบื้องต้นได้มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียหาย จำนวน 5,000 บาท และจะรวบรวมเงินช่วยเหลือต่อไป

ด้าน นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า สภามรรยาทได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการทางวินัย ซึ่งผู้เสียหายจะต้องลงลายมือชื่อเป็นผู้ร้องและให้ข้อมูลกับสภามรรยาทด้วย และหากทางสภามรรยาท มีความเห็นว่า นายพิสิษฐ์ ผิดจริง ถือเป็นการทำผิดร้ายแรงกับลูกความจะถูกลงโทษลบชื่อทันทีไม่สามารถประกอบอาชีพทนายความได้ 5 ปี หากครบ 5 ปี แล้วมาขอขึ้นทะเบียนใหม่ก็ต้องผ่านการพิจารณาอีกขั้นตอนหนึ่งด้วย ส่วนในเรื่องกฎหมายที่จะดำเนินการกับนายพิสิษฐ์ ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการมรรยาททนายความดำเนินการ

ซึ่งขณะนี้ได้คณะกรรมการได้ส่งเอกสารเพื่อเรียกให้ นายพิสิษฐ์ เข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งหากไม่มาทางคณะกรรมการมรรยาทก็จะสอบฝ่ายเดียวแล้ว นอกจากนี้วันนี้สภานทนายความจะให้แม่ลงชื่อเป็นผู้กล่าวหา และ ผู้เสียหาย พร้อมสอบปากคำไว้เพื่อดำเนินการกับทนายความที่ทำผิดต่อไป
"เบื้องต้นหากตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าทนายคนดังกล่าวกระทำความผิดก็จะมีการลบชื่อเนื่องจากเป็นคดีที่มีความร้ายแรง และ ตระบัดสินลูกความ คือข้อหาในมรรยาททนายความ กล่าวคือทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาททนายความเรื่องยักยอกและตระบัดสินของลูกความเป็นความผิดอันร้ายแรงโดยนายพิสิษฐ์ได้ฉ้อโกงเงิน ซึ่งการกระทำนี้ถือเป็นความผิดขั้นสูงสุดและไม่สามารถประกอบอาชีพทนายได้อีกโดยภายในวันที่ 25 ก.ค. นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาในเรื่องนี้ ส่วนจะสามารถนำเงินทั้งหมดมาคืนให้กับครอบครัวบีมได้หมดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลแพ่ง และ ทรัพย์สินของนายพิสิษฐ์ ที่จะขายทอดตลอดได้มากน้อยแค่ไหน" นายสรัลชา ระบุ

ขณะที่ นายเสาวภักดิ์ สกุลโรมวิลาศ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า วันนี้ที่ให้แม่น้องบีม และ น้องบีม มาที่สภาทนายความเพื่อให้เซ็นแต่งตั้งทนาย เพื่อขอรับความช่วยเหลือ โดยตามขั้นตอนของสภาทนายความ ผู้ร้อง คือ แม่น้องบีม และ น้องบีม จะต้องเดินทางมาเซ็นเอกสารด้วยตัวเอง หลังจากนั้นก็จะมีการจัดตั้งทนายความเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน

ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากทนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ก็สามารถเดินทางมาร้องทุกข์ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ด้าน น.ส.พรทิพย์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เคยเกือบจะถอดใจกับคดีนี้ไปแล้ว แต่ในที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ส่วนตัวยังมีความหวังว่าจะได้เงินก้อนนี้กลับมาดูแลน้องบีม และก็เริ่มมันใจในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น