เหยื่อ "ทนายพสิษฐ์" เข้าแจ้งความเพิ่ม

น.ส.นิษฐาณัฐ ภัทรธนินนิษฐ์ อายุ 54 ปี อดีตเจ้าของร้านรับส่งไปรษณีย์เอกชน ในจ.นนทบุรี ซึ่งตกเป็นเหยื่อถูกนายพสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่โกงเงินในคดีของน้องบีมและมารดาจำนวน 5 ล้านบาท บอกว่า ได้ถูกนายพสิษฐ์หลอกกู้ยืมเงินอ้างจะนำไปเรียนต่อปริญญาเอกจำนวน 1,336,830 บาท
น.ส.นิษฐาณัฐ เล่าว่าเมื่อประมาณปี 2550 ได้มอบหมายให้นายพสิษฐ์ว่าความคดีรับมรดกหลังจากบิดามารดาได้เสียชีวิต ซึ่งนายพสิษฐ์ก็ว่าความกระทั่งคดีใกล้จะเสร็จนายพสิษฐ์ ได้ออกปากขอยืมเงินเพื่อจะนำไปเรียนต่อปริญญาเอก แต่ขณะนั้นตนยังไม่ได้รับมรดกจึงได้ปฎิเสธไป ก่อนที่มารู้ที่หลังว่านายพสิษฐ์ได้ไปขอยืมเงินจากญาติตน 2 ราย รายแรกเป็นเงิน 500,000 บาท รายที่สองเป็นเงิน 450,000 บาท โดยบอกว่าเมื่อเสร็จคดีแล้วได้ค่าว่าความจะนำเงินมาคืนให้
หลังชนะคดีตนจึงได้เรียกนายพสินฐ์ และนางพรประวีณ์ ชูแก้ว ภรรยา พร้อมกับมอบเงินจำนวน 450,000 บาทให้นำเงินไปใช้คืนให้กับญาติ และนายพสินฐ์ ยังได้ขอยืมเงินไปเรียนต่อรวมเป็นเงิน 1,336,830 บาท โดยมีการทำหนังสือสัญญากู้เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2552 และมีกำหนดชำระคืนในวันที่ 28 ก.พ.58 แต่ต่อมาได้ทราบว่านางพรประวีณ์ นำเงินไปใช้คืนให้ญาติตนเองเพียง 100,000 บาท เท่านั้น
และเมื่อครบกำหนดตามสัญญา กับติดต่อนายพสิษฐ์ไม่ได้ เมื่อสอบถามไปที่นางพรประวีณ์ก็ได้รับการบาดเบี่ยง ทั้งนี้ หลังจากชนะคดี ตนยังเป็นคนติดต่อนายพสิษฐ์ให้ช่วยว่าความช่วยเหลือคดีของน้องบีมกับแม่ไม่คิดว่านายพสิษฐ์ จะโกงเงินของน้องบีมได้ ซึ่งในวันนี้ตนจะนำเอกสารการกู้ยืมเงินทั้งหมดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ให้ดำเนินคดีกับนายพสิษฐ์ให้ถึงที่สุด