ซิปไลน์ที่อยู่ในป่าสงวนนี้ เป็นของนายสุสรัญ โต๊ะพาน เจ้าของกิจการซิปไลน์แม็ก เขาบอกว่าเช่าที่ดินเอกสารสิทธิ์ สค.1 จำนวน 1 แปลง จากนายนิวิศ อรุณรัตน์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จำนวน 5 ไร่ เดือนละ 120,000 บาท โดยเพิ่งเปิดกิจการมาได้เพียง 6 เดือน มีการเก็บค่าบริการจากนักท่องเที่ยวคนละ 2,300 - 2,500 บาท ซึ่งภายหลังได้รับแจ้งจากกรมป่าไม้ ที่ตรวจสอบแล้วพบว่า สค.1 ที่เช่ามานั้น เป็นเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบตามกฎหมาย และตนได้ใช้ประโยชน์เกินจากพื้นที่เอกสารสิทธิ์ จึงขอรื้อถอนด้วยตนเอง และขอความเห็นใจจากกรมป่าไม้ไม่ดำเนินคดีบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติกับตน
อย่างไรก็ตาม นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ บอกว่า คงเป็นไปไม่ได้ กรมป่าไม้ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการเข้าประกอบธุรกิจเครื่องเล่นซิปไลน์ที่ผิดกฎหมายในเขตพื้นที่ป่าเทือกเขากมลา การเข้าตรวจยึดครั้งนี้ได้ทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย มีการการแจ้งเตือนให้เจ้าของเครื่องเล่นที่อ้างครอบครองที่ดินนำเอกสารหลักฐานมาแจ้ง และตรวจสอบแล้วว่าบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติจริง จึงมาตรวจยึดและยืนยันไม่เลือกปฏิบัติกับนายทุน
ทีมข่าวพบว่าเจ้าของธุรกิจรายนี้ เป็นรายเดียวกับที่ถูกจับที่พื้นที่ จ.เชียงใหม่มาแล้ว
จากการสำรวจพบว่าสภาพพื้นที่บริเวณนี้ ค่อนข้างลาดชันสูง จุดสถานีรวมนักท่องเที่ยวด้านหน้าที่มีการทำถนนเข้ามา มีการทำสลิงและจุดพักรวม 20 จุดโดยจุดสุดท้ายมองเห็นหาดป่าตอง
ข้อมูลภาพรวมจากกรมป่าไม้ ระบุการตรวจสอบธุรกิจซิปไลน์ทั่วประเทศ พบกระจายใน 3 จังหวัดมากสุด จ.เชียงใหม่ มี 12 แห่ง มีการดำเนินคดีแล้ว 6 แห่ง รื้อถอน 2 แห่ง นอกจากนี้ยังมีที่ จ.ระยอง 1 แห่ง และจ.ภูเก็ต มีทั้งหมด 7 แห่ง แต่ 3 แห่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ตรวจยึดในวันนี้ และตามขั้นตอนจะมีการติดประกาศและดำเนินคดีตรวจสอบ ก่อนที่จะให้รื้อถอนเครื่องเล่นออก ยอมรับว่าการประเมินค่าเสียหายทางแพ่งจากธุรกิจความเสียหายเอาต้นไม้ในป่าสงวน ยังไม่มีข้อกำหนดหรือแบบประเมินกับการบุกรุกที่ดิน