หนุ่ม กรรชัย แจงปมดราม่าแย่งแขก อยากให้ทุกคนคิดเป็นกลาง

ล่าสุดวันนี้ (2 ก.ค.) หนุ่ม-กรรชัย ได้โพสต์ชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบายถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น ดังนี้
คิดอยู่ทั้งคืนว่าจะโพสดีมั้ย จริงๆผมไม่อยากพูดอะไรแล้ว เพราะพูดไปก็มีแต่จะต่อความยาวสาวความยืด แต่รับไม่ได้จริงๆกับสิ่งที่บางคนคิด คุณมันมองแค่สั้นๆ จะบอกให้นะครับ สิ่งที่คุณกำลังคิดและโพสลงมา มันทำให้แม่ลูกคู่นึงซึ่งลูกพิการกำลังไม่มีที่ยืนในสังคม เพราะคนไปด่าว่าเค้าอยากได้เงินเลยต้องพูดเข้าข้างรายการผม ผมบอกเลยสิ้นคิดสิ้นดี
คิดตามผมดีๆ แบบใจเป็นกลาง
1.สิ่งที่คุณแม่พูดมาว่าไม่มีใครไปกักขังหน่วงเหนี่ยวแกตอนโฟนอินกับทางพิธีกรท่านนั่นจริงๆ อันนี้ พิสูจน์ง่ายมากๆ เพราะตอนนั้น มีพยานอยู่หลายคน โดยเฉพาะ พี่นักข่าวท้องถิ่นของทางรายการนั้นก็อยู่ในที่เกิดเหตุตอนแม่โฟนอิน เพราะนักข่าวท้องถิ่นของรายการนั้นเป็นคนเอาโทรศัพท์ของเค้าเองให้แม่โฟนอินกับพิธีกร ก็ไปถามทางนักข่าวท้องถิ่นที่รายการนั้นๆส่งไปก็จะรู้แล้วว่ามีการกักขังหน่วงเหนี่ยว ยึดโทรศัพท์มั้ย เค้าคงไม่มาโกหกหรอกเพราะเค้าคือนักข่าวท้องถิ่นของรายการนั้นเลย อย่าหลงประเด็นครับ เพราะตอนแม่โฟนอิน แกโฟนอินที่บ้านของแกเอง ไม่ใช่ช่อง3 
2. ไอ้ที่บอกว่านก จริยา ให้เงินแม่เลยต้องมาเข้าข้างรายการทางช่อง3 หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน เลยต้องมาเข้าข้างช่อง3 อันนี้ตลก เพราะคุณกำลังหมิ่นประมาทแม่ซึ่งต้องเลี้ยงลูกที่พิการตามลำพัง การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยการแบ่งปันมันแย่และเลวร้ายมากขนาดนั้นเหรอครับ อย่าคิดหรืออย่าโพสแบบนี้ครับ เพราะสิ่งที่คุณทำ กำลังฆ่าแม่ลูกคู่นึงทั้งเป็น ทำให้คนเข้าใจผิดเค้า ให้เค้าไม่มีที่ยืนในสังคมครับ 
3. ข้อนี้โคตรสำคัญ ไอ้การที่หลายฝ่ายบอกอยากช่วย ผมอยากทราบว่าช่วยอะไรครับ? ช่วยตามจับไอ้ทนาย......ๆที่ไปเอาเงินแม่ลูกเค้ามาแล้วเอาเงินห้าล้านคืนให้แม่ลูกเหรอครับ ก็อาจจะถูกครับ แต่แค่อาจจะนะครับ เพราะผมกำลังมองว่าหลายคน หลายฝ่าย หลงประเด็น ผมถามว่า ถ้าจับตัวทนายคนร้ายไม่ได้ หรือ จับได้แล้ว แต่มันไม่มีเงินคืนให้ ศาลสั่งประกาศยึดทรัพย์ขายทอดตลาดเอาเงินมาคืนแม่ลูก แล้วถ้ามันไม่มีทรัพย์อะไรให้ยึด ยอมล้มละลาย ยอมติดคุก แล้ววันนั้นแม่จะทำยังไงครับ ทำไมวันนี้ถ้าจะช่วยแม่ลูกคู่นี้ คุณไม่ช่วยให้แม่ลูกคู่นี้เค้ามีเงินเก็บเอาไว้ใช้โดยการหามูลนิธิ หรือให้ช่วยกันบริจาคหรือหยิบยื่นเงินให้เค้าในตอนนี้ ดีกว่าไปหวังน้ำบ่อหน้าจากการรอคอยไอ้ทนายขี้โกงนั่นซึ่งไม่รู้ว่าจะจับได้หรือมันจะมีเงินมาคืนมั้ย รายการที่เอาไปคิดจะขึ้นเบอร์บัญชีให้แม่ลูกมั้ย หรือแค่จะเอาไปตามล่าจับไอ้ทนายนั่นอย่างเดียว เคยคิดมั้ยว่า ลูกเค้าพิการ แม่ต้องอุ้มเข้าห้องน้ำ ขึ้นรถ พาไปขายของที่วัดทุกวัน เพื่อหาเงินใช้รายวัน วันไหนขายไม่ได้คือไม่มีเงินจะกิน แล้วถ้าวันนึง เดือนนึง ปีนึง แม่เค้าป่วยขึ้นมาไปขายของหาเงินไม่ได้ คราวนี้ทำยังไง จะกินยังไง ลูกที่พิการต้องใช้แพมเพิดทุกวัน จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ เค้ามีกันแค่2คนแม่ลูกนะคุณ เค้าควรมีเงินเก็บไว้เผื่อใช้ยามแม่ป่วยมั้ย เรื่องเจ็บป่วยนี่บอกเลยวันนึงมันเกิดขึ้นแน่ๆ หรือจะให้รอตามจับไอ้ทนายนั่นแล้วก็หลอกให้แม่เค้ามีความหวังว่าจะได้เงินคืนห้าล้านไปวันๆ 
ผมถึงบอกไง การช่วยมันมีหลายวิธี อย่าไปมุ่งประเด็นเดียวคือตามคนร้าย คุณต้องช่วยเรื่องพื้นฐานครอบครัวเค้าด้วย ต้องทำควบคู่ไป
อ่อ ผมลืมบอก คุณรู้มั้ยแม่ลูกที่คุณกำลังสงสัยหรือหมิ่นเค้า ตัวลูกที่พิการไม่ค่อยชอบกินข้าว กินน้อยมาก ไม่ใช่ว่าเบื่ออาหาร หรือลดความอ้วนนะ น้องเค้าบอกว่า เค้าสงสารแม่กลัวตัวเองจะน้ำหนักมากไป จนแม่จะอุ้มเค้าไม่ไหว เพราะแม่แก่แล้ว และใส่เหล็กที่ขา!!
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะพูดอะไร จะโพสอะไร ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่าเอามันส์ อย่าอ้างมุมมองแต่ละคน เรื่องนี้ไม่ใช่มุมมอง มันคือจิตสำนึกล้วนๆ คำพูดบางคำมันฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ครับ!!