จากการสอบสวนน.ส.แอ๋ม (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ชาวจ.สุโขทัย ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ให้การว่า ตนเดินทางมาจากบ้านเกิดจ.สุโขทัย ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อมาสอบเข้ารับราชการเป็นพนักงานราชการ ที่ศูนย์การกำลังสำรอง ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยระหว่างนี้ตนได้เช่าห้องพักอยู่ที่ย่านสายไหมเพื่อรอประกาศผลสอบวันที่ 3 กรกฎาคม แต่วันนี้(2 ก.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. ญาติโทรศัพท์มาแจ้งว่าแม่ป่วย ตนจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านทันที ซึ่งตนได้โบกรถแท็กซี่จากปากซอยสายไหม 63 เป็นรถแท็กซี่สีเขียว ไม่แน่ใจว่าคาดเหลืองด้วยหรือไม่ หมายเลขทะเบียนจำได้แค่ 6240 กรุงเทพมหานคร โดยให้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อรอซื้อตั๋วขึ้นรถกลับในช่วงเช้า
"ขณะที่กำลังโดยสารมาหนูนั่งเบาะหลังเยื้องกับคนขับ เมื่อถึงบริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามใกล้ทางเข้าสนามกอล์ฟกองทัพบก ถ.รามอินทรา ทันใดนั้นคนขับรถแท็กซี่อายุประมาณ 50 ปี ได้จอดรถ และปรับเอนเบาะนอนก่อนจะปีนข้ามมาด้านหลัง แล้วใช้กำลังพยายามถอดเสื้อหนูออก และรื้อค้นในกระเป๋าสะพายของหนูด้วย โดยหยิบเงินไป 2,000 บาท หนูกลัวและตกใจมาก แต่ก็พยายามต่อสู้ขัดขืน และเปิดประตูหนีออกมาได้ ก่อนจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ยืนห่างออกไปพอสมควร ระหว่างนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับหลบหนีไป"น.ส.แอ๋ม กล่าว
ด้านร.ต.ท.กมลเทพ กล่าวว่า จุดเกิดเหตุอยู่ใต้สะพานลอยคนข้ามซึ่งค่อนข้างมืดและเปลี่ยว ประกอบกับแถวนั้นไม่มีใครเดินผ่านเลย ป้อมทหารก็อยู่ไกล คนขับแท็กซี่จึงกล้าลงมือ เบื้องต้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายว่า ถูกทำร้ายไว้เป็นหลักฐาน แต่ผู้เสียหายอยากกลับไปหาแม่ให้เร็วที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงช่วยกันออกเงินค่ารถให้แล้วพาไปที่ขนส่งหมอชิต 2 ส่งตัวกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ได้ประสานฝ่ายสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดหาตัวคนขับแท็กซี่มาสอบปากคำต่อไป