นายธัชยนท์ เปิดเผยว่า เปิดกลุ่มไลน์ดังกล่าวเชิญชวนให้ร่วมลงทุนในลักษณะซื้อแลกเปลี่ยนอัตราเงินจากต่างประเทศ โดยจะจ่ายเงินปันผลร้อยละ 10 ต่อสัปดาห์ หรือร้อยละ 40 ต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีค่านายหน้าให้กับบุคคลที่เชิญชวนเข้ามาร่วมลงทุน ร้อยละ 5 จากเงินทุนของผู้ที่ถูกชักชวน และยังได้รับเงินปันผลอัตราเดียวกับผู้ร่วมลงทุนด้วย โดยแชร์ลูกโซ่กลุ่มนี้เริ่มเปิดให้ลงทุนจำนวน 2 กลุ่ม กลุ่มละ 500 คน ในเดือนธันวาคม 2559 และมีการจ่ายเงินปันผลตลอดมา จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2560 ก็ไม่มีการจ่ายเงินปันผล และปิดช่องทางการติดต่อ ก่อนทราบภายหลังว่าหลบหนีออกนอกประเทศ
ด้านนายพัฐจักร กล่าวว่า จากการพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย ทำให้พบข้อมูลว่ามีผู้ร่วมลงทุนเสียหายมากสุด 20 ล้านบาท โดยคดีนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 26 คน จากทั้งหมดกว่า 700 คน โดยผู้เสียหาย ยอมรับว่า สาเหตุที่ตัดสินใจลงทุนเพราะมีหลักฐาน ยืนยันว่า ได้เงินปันผลจริง
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบ พร้อมสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป