"สมเจตน์" จี้ "นักการเมือง" เลิกค้านไพรมารี่โหวต หากอยากเลือกตั้ง

  พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง สนช. กล่าวถึงข้อท้วงติงของนักการเมืองและนักวิชาการต่อระบบเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาตัวแทนสมาชิกพรรคก่อนส่งสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของพรรคการเมือง หรือ ระบบไพรมารี่โหวต อาทิ กำหนดระบบตรวจสอบไพรมารี่โหวต ของพรรคการเมือง,ไม่ควรทำไพรมารี่โหวตพร้อมกันทั้ง 375 เขต หรือ แก้ปัญหาเรื่องระยะเวลาทำไพรมารี่โหวตที่ไม่กระทบต่อการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ว่า ตนพร้อมรับฟังความคิดเห็น ซึ่งยอมรับว่าการพิจารณาของกมธ.ฯ ที่มีเวลาน้อยอาจทำให้มีประเด็นที่ไม่ครบถ้วน ดังนั้นหากความเห็นต่างๆ จะช่วยเติมบทบัญญัติที่ทำไว้ดีแล้วให้ดียิ่งขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตามในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีบทบัญญัติกำหนดให้พรรคการเมืองสามารถทำไพรมารี่โหวตก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ประกาศวันเลือกตั้งได้ จึงเชื่อว่าไม่เป็นปัญหาและแม้จะมี พ.ร.ฎ.ใช้บังคับกระบวนการทำไพรมารี่โหวต หากพรรคการเมืองใดเตรียมความพร้อมไว้รองรับ เชื่อว่าภายใน7 วัน จะทำแล้วเสร็จได้  ค้านขยายสิทธิไพรมารี่โหวต ให้ คนนอกสังกัดพรรค พล.อ.สมเจตน์ กล่าวด้วยว่าสำหรับข้อเสนอที่ให้แก้ไขให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคมีสิทธิลงคะแนนเลือกตัวแทนไปเป็นผู้สมัคร ส.ส. นั้น ตนมองว่าคนที่ไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคไม่สมควรได้รับสิทธิ เพราะสิทธิเลือกตัวแทนของพรรคควรเป็นสิทธิเฉพาะของบุคคลที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเท่านั้น "ใครจะตำหนิว่าลดสิทธิประชาชน จำกัดเฉพาะให้สมาชิกพรรคเท่านั้น ก็ตำหนิไป ผมไม่อยากตอบปัญหาจุกจิกพวกนี้เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะเข้าใจว่าเมื่อเสนอไพรมารี่โหวตก็ค้านแล้ว ก็ยังจะมาเรียกร้องสิ่งที่ไปไกล ดังนั้นวันนี้ขอเริ่มต้นที่จุดเล็กๆ จากสมาชิกพรรคการเมืองก่อน หากวันที่ประชาธิปไตยเข้มแข็งแล้ว ค่อยขยายไปสู่ประชาชนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ผมยอมรับแนวคิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตัวแทนพรรคการเมืองเป็นแนวคิดดี แต่ไม่ควรใช้ตอนนี้" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว  จี้ "นักการเมือง" เลิกค้านไพรมารี่โหวต หากอยากเลือกตั้ง พล.อ.สมเจตน์ ยังเรียกร้องไปยังนักการเมืองที่แสดงความเห็นคัดค้านและต่อต้านระบบไพรมารี่โหวต ด้วยว่า ขอให้คำนึงถึงหลักการการสร้างประชาธิปไตย ที่มีจุดเริ่มต้นจากฐานของพรรคการเมือง เพราะตามแนวคิดของ กมธ.ฯ ต่อระบบไพรมารี่โหวตคือต้องการให้สมาชิกพรรคการเมืองร่วมเป็นเจ้าของพรรค มีส่วนร่วมคัดเลือกตัวแทนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ทั้งระบบแบ่งเขตเลือกตั้งและระบบบัญชีรายชื่อด้วยตนเอง "นักการเมืองอ้างตลอดว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตยต้องจัดการเลือกตั้ง ซึ่งแนวคิดนี้ตรงกับของเราที่ใช้ไพรมารี่โหวตเลือกผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ คือการเลือกตั้งที่สร้างประชาธิปไตย ดังนั้นอย่าเอาสิ่งที่เป็นปัญหาเพียงเล็กๆ น้อยๆมาเป็นส่วนที่ขัดขวางการสร้างหรือดำเนินการประชาธิปไตยในประเทศอีกเลย แต่หากนักการเมืองยังคิดว่าระบบนี้ทำไม่ได้ คำถามที่ต้องคิดต่อคือ หากพรรคไม่พร้อม หากมองว่ายังเป็นปัญหา ก็ไม่ควรเลือกตั้ง ดังนั้นผมขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมืองทางประชาธิปไตยอย่ารังเกียจกับความลำบากเพียงเล็กน้อย และหันกลับมาร่วมใจสร้างประชาธิปไตยให้ประเทศชาติ โดยไม่รังเกียจการใช้ระบบไพรมารี่โหวตเพื่อหาตัวแทนของพรรคในการส่งสมัครรับเลือกตั้ง" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว