svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ยึดเงินสด 3.3 ลบ.หนุ่มกัมพูชาพัวพันธุรกิจมืด

22 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สระแก้ว-เมื่อเวลา09.00น.วันที่21มิ.ย.60จากกรณีที่ ตร.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้ทำการตรวจยึดเงินสด3,339,000บาท(สามล้านสามแสนสามหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) และบัตรเอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย,ธนาคารไทยพาณิชย์ ,ธนาคารกรุงเทพ รวม126ใบ พร้อมสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกสิกรไทย6เล่ม,สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ อีก3เล่ม จากนายแก้ว เฮง อายุ24ปี ตามเอกสารหนังสือเดินทางท้องถิ่น(บอเดอร์พาส) ขณะพกติดตัวอยู่บริเวณตู้ATMหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดโรงเกลือ เมื่อวันที่20มิ.ย.60มาตรวจสอบเนื่องจากสงสัยว่าอาจมีส่วนร่วมกับแก๊งค้ารถ จยย.ข้ามชาติที่ถูกจับกุมที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่20ม.ค.60ที่ผ่านมา


หลังจากตรวจสอบพบว่ามีเงินในบัญชีหมุนเวียนเก่าวันละ1ล้านบาท และพบมีการโอนเงินจากบัญชีของนายแก้ว เฮง ไปให้กับนายโตลา เฮง ซึ่งเป็นชาวเขมรและถูก จนท.ตร.สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับกุมข้อหารับของโจรร่วมกับแก๊งลักรถ จยย.ที่ถูกจับกุมก่อนหน้าฯ ซึ่ง จนท.ตร.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้เตรียมทำเรื่องเสนอให้ ปปง.มาร่วมสอบสวนหวั่นเป็นการฟอกเงินจากธุรกิจมืด และได้ประสานไปยังธนาคาร ของบัตรATMให้อายัติการทำธุรกรรม ในบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคาร ที่ จนท.ตรวจยึดและอายัติไว้ตรวจสอบ แล้วนั้น แต่ จนท.ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาหรือควบคุมตัวนายแก้ว เฮง ไว้ได้เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานการกระทำผิด จึงไม่ได้มีการควบคุมนายแก้ว เฮง ไว้ แต่ได้ทำบัณทึกและถ่ายสำเนาเอกสารหนังสือเดินทางและเบอร์โทรศัพท์ของนายแก้ว เฮง ไว้เท่านั้น

นอกจากนี้ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส)สภ.คลองลึกฯได้ประสานความร่วมมือไปยัง พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ให้ช่วยตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าประเทศไทยของนายแก้ว เฮง ว่ามีมากน้อยเพียงไรซึ่งพบว่านายแก้ว เฮง เดินทางเข้าออกประเทศไทยด้วยบอเดอร์พาสกัมพูชา หนังสือเดินทางท้องถิ่นกัมพูชา ทุกวัน นอกจากนี้ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้ประสานไปยัง ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา ให้ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและประวัติของนายแก้ว เฮง ด้วยว่าประกอบอาชีพอะไรและมีประวัติเป็นอย่างไร เนื่องจากนายแก้ว เฮง มีอายุเพียงแค่24ปี แต่สามารถมีเงินมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร และมีผู้ใดหรือกลุ่มใดอยู่เบื้องหลัง

เช้าวันนี้นายแก้ว เฮง พร้อมพวกชาวเขมรรวม12คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส)สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว โดยแจ้งว่าชาวเขมรทั้ง11คน ที่นำมาด้วยเป็นเจ้าของบัตรATMที่ จนท.ฯตรวจยึดไว้และจะมาขอคืน พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส)สภ.คลองลึกฯ ได้แจ้งให้ พ.ต.ต.เสถียร วงศ์อุดมธรรม สว.(สอบสวน)ฯเจ้าของคดีมาร่วมตรวจสอบเอกสารของเจ้าของบัตรATMซึ่งเป็นชาวเขมรทั้ง11คน และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริงมีชื่อตรงกับบัตรATMแต่ จนท.ได้ปฏิเสธการคืนบัตรATMโดยแจ้งว่าทาง สภ.คลองลึก ได้อายัติไว้ตรวจสอบเนื่องจากยังมีข้อสงสัยอีกหลายประการขอให้รอการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นแล้วจะส่งคืนให้ ทำให้ชาวเขมรเจ้าของบัตรATMทั้ง11คน เกิดความไม่พอใจและพูดจาโวยวาย จนท.จึงต้องอธิบายถึงขั้นตอนการสอบสวนของ จนท.ฯอีกทั้งตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าของบัตรATMทั้ง11คน ที่นายแก้ว เฮง ให้การกับ จนท.ตร.ในครั้งแรกว่าเป็นของแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานใน กทม. แต่ชาวเขมรทั้ง11คนที่มาแสดงตัวเป็นเจ้าของบัตรATMในวันนี้แต่งตัวดีและขับรถหรูทุกคนลักษณะคล้ายพ่อค้านักธุรกิจ และยังพูดหลุดออกมาว่าทำธุรกิจสินค้าส่งออกด้วย จึงทำให้ จนท.เกิดความเคลือบแคลงและสงสัยจึงยังปฏิเสธการคืนบัตรATMให้

พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส)สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เผยว่า วันนี้ได้เชิญนายแก้ว เฮง มาให้ พ.ต.ต.เสถียร วงศ์อุดมธรรม สว.(สอบสวน)สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ทำการสอบสวนและสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งเนื่องจากการให้การของนายแก้ว เฮง ทั้ง2วันพูดไม่ค่อยตรงกันยังมีความสับสนถึงเงินที่ได้มาจำนวนกว่า3ล้านบาท วันนี้นายแก้ว เฮง ได้อ้างว่ามีนายจ้างเป็นชาวเขมรเป็นผู้โอนมาให้ แต่เมื่อวานนี้ได้อ้างว่านำเงินสกุลเรียลของกัมพูชามาแลกเป็นเงินไทย ซึ่งไม่ตรงกันจึงได้เชิญมาสอบถามข้อมูลอีกครั้ง ทั้งนี้ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส)สภ.คลองลึก เผยอีกว่าได้ประสานไปยังธนาคารฯเจ้าของบัตรATMที่ตรวจยึดไว้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินจึงทราบว่านายแก้ว เฮง ใช้วิธีการโอนเงินจากบัตรATMหลายๆใบมาเข้าบัญชีของตนเอง จากนั้นก็เบิกเป็นเงินสดออกมาจำนวนกว่า3ล้านบาท คาดว่ากำลังจะลักลอบนำออกนอกประเทศ แต่มาถูก จนท.ตรวจยึดไว้ได้เสียก่อน ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากธนาคารฯอื่นอีก2แห่ง จนท.ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากมีผู้บริหารบางธนาคารไม่ให้ความร่วมมือในการอายัติหรือตรวจสอบบัญชี

ทำให้ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้ทำเรื่องประสานไปยัง ปปง.ขอให้มาตรวจสอบเส้นทางการเงินเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นขบวนการฟอกเงิน และ ปปง.ได้ตอบรับและเชิญให้ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส) สภ.คลองลึกฯเดินทางไปให้ข้อมูลกับ ปปง.ในวันศุกร์ที่23มิ.ย.60เพื่อตั้งคณะกรรมการมาร่วมสอบสวนทันที

logoline