svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ยายแอ๋ม" หวั่นคดีหั่นศพหลานสาวไม่คืบ

20 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ยายน้องแอ๋ม" พร้อมทนายความเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอติดตามคดีฆ่าหั่นศพหลานสาว หวั่นคดีเงียบ

        วันนี้ (20 มิ.ย.60) เวลา 13.00 น. ที่ตำรวจภูธรภาค4 นางสำราญ เพียแก่น ยายของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม พร้อมด้วยนายนพดล สีดาทัน ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.สายรุ้ง กลิ่นจุ้ย หรือ นางสาวพิชชาภา คำเพิงใจ แม่ของ น.ส.แอ๋ม ได้เดินมาขอเข้าพบ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เพื่อขอความเป็นธรรมและขอติดตามความคืบหน้าในคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.แอ๋ม หลังจากที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสำนวนส่งให้อัยการ ตามกรอบระยะเวลา 84 วัน แต่การเดินทางมาในวันนี้ ญาติของผู้ตายและทนายความยังไม่ได้ยื่นหนังสือแต่อย่างใด เนื่องจากรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ติดภารกิจในการประชุมเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาจังหวัดขอนแก่นในวันพรุ่งนี้
       นางสำราญ ยายของแอ๋ม กล่าวว่า การเดินทางมาขอพบรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ในวันนี้ ก็เพื่อที่จะติดตามความคืบหน้าของคดีว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เพราะตั้งแต่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้ เรื่องก็ดูเงียบๆ ตนได้ทราบจากข่าวว่า ตำรวจจะมีการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม แต่ก็สังสัยว่าเหตุใดตำรวจจึงไม่ติดต่อสอบถามมาที่ตนบ้าง จึงเกิดความไม่สบายใจ และกังวลว่าเรื่องจะเงียบ วันนี้จึงอยากมาเข้าพบกับตำรวจเพื่อสอบถามความคืบหน้า เพื่อตนและญาติๆ จะได้สบายใจ
       ขณะที่หนังสือที่ทนายความได้นำมาเพื่อยื่นต่อรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นั้น ระบุชื่อของ น.ส.สายรุ้ง กลิ่นจุ้ย แม่ของแอ๋ม โดยเนื้อหาระบุว่า ด้วยพฤติกรรมในการฆ่าลูกสาวของตนในคดีนี้ เป็นพฤติกรรมที่ฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้ายและมีเจตนาฆ่า โดยการวางแผนไว้ล่วงหน้าและปฏิบัติการเป็นกระบวนการ ทางคดีตามข่าวสารปรากฎว่ามีความเกี่ยวพันกับผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งเบื้องต้นตนพร้อมทนายความได้สอบถามข้อเท็จจริงจากบรรดาบุคคลที่สนิทกับผู้ตาย และน่าจะให้การเป็นประโยชน์ในฐานะพยาน เพื่อนำผู้กระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษ แต่ปรากฎว่าบุคคลเหล่านั้นหลีกเลี่ยงไม่กล้าให้รายละเอียดข้อเท็จจริง และไม่กล้าที่จะเป็นพยานในคดีนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันฆ่าน้องแอ๋ม ที่สามารถเดินทางเข้าออกชายแดนประเทศเพื่อนบ้านได้ แสดงว่ามีเครือข่ายในการช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยให้หลบหนีการจับกุมของตำรวจ  ล่าสุดผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งยังมีการใช้ระบบคมนาคมสื่อสารเข้ามาหาบุคคลใกล้ชิดในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งอาจเป็นไปได้ในการที่จะสั่งการให้มีการปกปิดซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน พยานเพื่อให้พ้นผิด  จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวคดีจะล่าช้า จึงได้เข้ามายื่นหนังสือเพื้อขอความเป็นธรรมและติดตามความคืบหน้าของคดี

logoline