"ป.ป.ช" พิจารณาทุจริต "เงินทอนวัด"

ที่ประชุม  จะพิจารณาว่า  จะเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 คือ เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์สินใด เบียดบังทรัพย์สินนั้นเป็นของตน หรือของผู้อื่นซึ่งมีความผิด หรือไม่    รวมถึง อาจจะเข้าข่าย มาตรา 157 คือ  เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่ เพื่อจะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป 
เลขาธิการ ป.ป.ช. บอกด้วยว่า สำนวนที่ส่งมาค่อนข้างสมบูรณ์ ซึ่งหากต้องตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และเห็นว่า  ยังมีข้อไม่สมบูรณ์  ทาง ป.ป.ช.จะหาหลักฐานมาประกอบสำนวนเพิ่มเติม ทั้งนี้สามารถทยอยส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาสำนวนในรอบแรกก่อนได้ โดยไม่ต้องรอให้ ปปป.ส่งสำนวนมาครบทุกวัดที่ตรวจสอบ   
การทุจริตเงินทอนวัดนี่  ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสสนาแห่งชาติ แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 คนแล้ว โดยเป็นข้าราชการ พศ.4 คน และพลเรือน 4 คน สร้างความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท  สำหรับผู้ต้องหา มีทั้งข้าราชการ เจ้าอาวาสวัด และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ส่งเรื่องนี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อพิจารณาและสอบสวนและดำเนินคดี