svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

อดีตวิศวกร กฟผ. มือวางระเบิดป่วนกรุงฯ ยังปิดปากเงียบ

17 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อดีตวิศวกร กฟผ. มือวางระเบิดป่วนกรุงฯ ยังไม่ซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการ ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคาดยังมีผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นขบวนการอีกอย่างแน่นอน ตรวจสอบประวัติการรักษาทางจิต ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

จากกรณีที่ตำรวจและทหารบุกจับกุมตัว นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 61 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยวางระเบิดไปป์บอมบ์ "ห้องวงษ์สุวรรณ" ภายใน รพ.พระมงกุฎฯ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้เข้าตรวจค้นบ้านนายวัฒนา ย่านซอยรามอินทรา 3 เขตบางเขน พบอุปกรณ์ชิ้นส่วนประกอบระเบิดหลายรายการ รวมทั้ง ไปป์บอมบ์ พร้อมใช้งาน จำนวน 4 ลูก นาฬิกาและสายคล้องคอมีรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนนำตัวเข้าสอบปากคำในค่ายทหารเกือบทั้งวัน กระทั่งเจ้าตัวยอมรับสารภาพเป็นผู้ประกอบและลงมือลอบวาง "ไปป์บอมบ์แจกัน" รวมไปถึงที่กองสลากเก่า ใกล้สี่แยกคอกวัวและหน้าโรงละครแห่งชาติ ถนนราชินี โดยก่อนหน้าเมื่อปี 50 ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ที่หน้า บก.ทบ.ถนนราชดำเนิน ซอยราชวิถี 24 และที่หน้าเมเจอร์ รัชโยธินหลังจากนั้นไม่ได้ก่อเหตุอีก กระทั่งต่อมาปี 60 กลับมาประกอบและวาง "ไปป์บอมบ์" รวดเดียว 3 ครั้ง โดยรับว่าทำคนเดียว ด้วยเหตุผลไม่ชอบทหาร คิดต่างทางการเมือง หวังให้เกิดความรุนแรงเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล และได้มีการขออนุมัติออกหมายจับตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดมีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว หลังทำการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้อย่างมาราธอน นานหลายชั่วโมง จนยอมรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวเพียงผู้เดียว โดยไม่มีบุคคลใดช่วยเหลือ ซึ่งสาเหตุที่ลงมือทำลงไป เพื่อเพียงแสดงถึงความไม่พึงพอใจของการกระทำของรัฐบาลยุคทหาร ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ทางชุดสืบสวนสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ต้องหาแล้วนั้น พบว่ามีความเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสูง  หากจะทำสิ่งใดตามความคิดตนเอง ต้องทำให้ได้ จนทำให้มีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวออกมา โดยไม่มีผู้ใดสามารถห้ามได้
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติการรักษาทางจิต ปรากฎว่า ไม่พบแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในการให้ปากคำของผู้ต้องหา  และขณะนี้ผู้ต้องหายังอยู่ในความดูแลของทหาร และทางตำรวจต้องทำการสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง  เพื่อจะทำการขยายผลหากมีผู้ร่วมขบวนการอีก ก่อนนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้
นอกจากนี้แนวทางการสืบสวนสอบสวน ยังพบว่า ผู้ต้องหายังได้เข้าชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองทุกกลุ่ม ไม่เลือกว่าจะเป็นฝ่ายใด เพื่อไปฟังแนวคิดทางการเมือง หากกลุ่มใดมีแนวคิดตรงกับทางผู้ต้องหา จะเดินทางไปเข้าร่วมบ่อยครั้ง อีกทั้งเมื่อทางชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายปรากฎตัวตามสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด ทำให้เชื่อว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ที่ลงมือก่อวินาศกรรมครั้งนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนยังเชื่ออีกว่า มีผู้กระทำความผิดเป็นขบวนการอย่างแน่นอน แต่ทางผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมปริปากพูด โดยทางชุดสืบสวนสอบสวนเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มี

logoline