รวบหนุ่มใหญ่ ต้องสงสัยวางระเบิดรพ.พระมงกุฎ ยังให้การปฏิเสธ

วันที่ 15 มิถุนายน แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้สนธิกำลังเข้าควบคุมตัวชายอายุ 61 ปี ซึ่งเป็นอดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้า คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว ภายหลังจากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในวันเกิดเหตุ พบบุคคลต้องสงสัยเดินผ่านเข้ามาทางประตูทางเข้าของโรงพยาบาลมุ่งหน้ามาที่ห้องวงษ์สุวรรณ มีลักษณะผอมสูงประมาณ 160-165 ซม. ผมยาวประบ่า สวมเสื้อยืดคอปกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าแตะ โดยที่มือซ้ายถือถุงหิ้วคล้ายถุงผ้าสีขาว มีสิ่งของโผล่ออกมาลักษณะคล้ายดอกไม้ใส่แจกัน เดินตรงเข้ามาแล้วเลี้ยวเข้าไปในห้องวงษ์สุวรรณ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก่อนเดินออกมา โดยไม่ถือสิ่งของดังกล่าวออกมาด้วย

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านของชายคนดังกล่าว พบวัตถุประกอบระเบิดจำนวนหลายรายการ พร้อมกันนี้ยังได้พบไปป์บอมจำนวน 4 ลูก พร้อมกับท่อพีวีซี และตะปูเกียว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบระเบิดคล้ายกับเหตุระเบิดในกทม.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวชายคนดังกล่าวมาสอบสวนที่กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด ซึ่งชายคนดังกล่าวยังคงปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ และคาดว่าจะมีคนร่วมขบวนการด้วย
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังได้ตรวจค้นคอนโดอีก 2 จุด บริเวณด้านหลังที่ทำการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขตบางกรวย จ.นนทบุรี โดยได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ ซึ่งเป็นวัตถุประกอบระเบิดที่พบไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นชนิดเดียวกับเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า บริเวณด้านหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนิน และบริเวณด้านหน้าโรงละครแห่งชาติหรือไม่
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า การจับกุมชายคนดังกล่าว เป็นการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หลังพบชายต้องสงสัย อำพรางปกปิดใบหน้า ปรากฏในภาพวงจรปิดบริเวณรพ.พระมงกุฎฯ ชุดสืบสวนจึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบชายผู้ต้องสงสัยดังกล่าวรูปภาพไม่ชัดเจน แต่พยานได้ให้การว่าเห็นชายคนดังกล่าวนั่งอยู่บริเวณดังกล่าวตั้งแต่เวลา 08.30 น. 10.30 น. ขณะเดินเข้ามาถือถุงลักษณะเป็นถุงกระดาษประคอง 2 มือลักษณะคล้ายแจกัน เข้ามาบริเวณห้องวงษ์สุวรรณ รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะเดินออกไม่มีของที่ถือเข้ามาแต่ไม่เห็นระหว่างที่มีการวาง โดยเข้ามาทางประตูหน้าทางปกติ จากนั้นก็ขึ้นรถโดยสารประจำทางเล่นโทรศัพท์มาตลอดทางไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามจากกล้องวงจรปิดพบว่า ชายคนดังกล่าวมีอาชีพเป็นวิศวกรไฟฟ้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแต่เกษียณอายุราชการแล้ว ได้นั่งรถโดยสารประจำทางมายังบริเวณบางกรวยเพื่อหาสาวคนสนิทหรือที่อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และมีเพื่อนสาวที่รู้จักอยู่บริเวณ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่บ้านอยู่ในพื้นที่เขตบางเขน กรุงเทพมหานครที่พบของกลางดังกล่าว เชื่อว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นฝีมือของชายคนดังกล่าว

ส่วนมีความเชื่อมโยงกับฝ่ายการเมืองหรือไม่นั้น จากการสอบปากคำเพื่อนสาวคนสนิทที่อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ทราบว่าชายคนดังกล่าวมีความคิดลักษณะฝักใฝ่เรื่องสีเสื้อ และไม่ชอบทหาร แต่ภรรยาที่บางเขนบอกว่าไม่มีความคิดเห็นดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการควบคุมชายคนดังกล่าวโดยใช้อำนาจตามม.44 ระหว่างที่ขึ้นรถประจำทางกลับบ้านมาสอบปากคำตั้งแต่เมื่อเย็นวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำอยู่ที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่11 (พัน ร. มทบ.11) เพื่อสอบปากคำรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเป็นผู้ลงมือทำหรือมีใครสั่งการมาอีกหรือไม่ มีการสอบปากคำเกี่ยวกับวัตถุพยานที่เกิดขึ้นด้วยเจ้าหน้าที่ทหารต่อไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ร่วมสนธิกำลังทหารระดมเข้าตรวจค้นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัยรายนี้ นับ 10 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยแต่ละแห่งไม่พบสิ่งที่เข้าข่ายกระทำความผิด มีเพียงบ้านพักที่ย่านรามอินทราจุดเดียวที่พบอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ซึ่งการตรวจค้นครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่หาพยานหลักฐานเพื่อมาประกอบสำนวน และหาความเชื่อมโยงว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ต่อไป
อย่างไรก็ตามตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ฐานครอบครองวัตถุระเบิด, ผลิตวัตถุระเบิด และหากพยานหลักฐานชัดเจนก็จะแจ้งข้อหาฐานก่อการร้ายด้วย