โหด! แม่ใช้ไม้ตีหัว "น้องรุ้ง" ล้ม แล้วขังในห้องจนสิ้นใจ

ความคืบหน้ากรณีพบศพเด็กหญิงนิรนามถูกฆ่านำผ้าห่มห่อมัดศพกับกระสอบปุ๋ยบรรจุก้อนคอนกรีตถ่วงน้ำจนศพลอยอืดติดกองผักตบชวาในคลองสำโรง ตัดคลองผู้เฒ่า ซ.ทรัพย์แดง ถนนเทพารักษ์ ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น กระทั่งตำรวจสืบสวนได้เบาะแสสำคัญว่าคนร้ายคือพ่อเลี้ยงของเด็กสาววัย 12 ปี จากคำให้การเจ้าของบ้านเช่าจนเจ้าหน้าที่ตามจับกุมพ่อเลี้ยงและแม่ผู้ตายมาสอบปากคำนั้น
ต่อมาพ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง สั่งชุดคลี่คลายคดีเร่งรวบรวมเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดี เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง และกองปราบปราบ สามารถจับตัวนายวจะรัน ทัดสวรรค์ อายุ 34 ปี พ่อเลี้ยง และน.ส.สุภาพร นนทรา อายุ 31 ปี มารดาของด.ญ.พรทิพย์ กุลนานันท์ หรือน้องรุ้ง อายุ 12 ปี ผู้ตาย ได้ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ขณะนำลูกสาวคนเล็กอายุ 3 ขวบไปฝากบ้านญาติและเตรียมหลบหนี
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายวจะรัน และน.ส.สุภาพร สามีภรรยา ผู้ก่อเหตุฆ่า"น้องรุ้ง"ถ่วงน้ำเพื่ออำพรางศพ ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ เลขที่ 616 และ 617 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลาย เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย โดยจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
จากการสอบสวนสามีภรรยาให้การรับสารภาพว่า หลังรับเด็กมาอยู่ได้ 3 เดือน ก็เริ่มทุบตีเด็กเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเด็กดื้อและชอบโกหกและกักขังเด็กไว้ในห้องพร้อมบุตรสาวอายุ 3 ขวบอีกคนเวลาที่ออกไปทำงาน ส่วนการทำร้ายมักทุบตีและเตะ แต่ส่วนใหญ่เป็นน.ส.สุภาพร ซึ่งเป็นแม่จะเป็นคนที่ลงมือทำโดยรับว่าตีเด็กมาแล้ว 10 ครั้ง พ่อเลี้ยงจะร่วมทุบตีด้วยในบางครั้ง กระทั่งวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา น.ส.สุภาพรได้ใช้ไม้ไผ่ตีเข้าไปที่หัวเด็กและตามร่างกายจนเด็กมีอาการป่วย หน้าบวมกินข้าวไม่ได้ และเสียชีวิตในช่วงค่ำวันที่ 9 มิถุนายน
พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวอีกว่า หลังจากผู้ต้องหากลับมาจากทำงานในตอนค่ำจึงรู้ว่าเด็กหญิงวัย 12 ปีเสียชีวิตแล้ว จึงร่วมกันนำผ้านวมมาห่อร่างก่อนขี่รถจักรยานยนต์มีพ่อเลี้ยงเป็นคนขับและแม่นั่งอุ้มมายังศาลาริมน้ำ จากนั้นนำเชือกมาผูกมัดมือมัดเท้าก่อนนำก้อนหินที่หาได้ในละแวกนั้นใส่ในถุงข้าวสารเพื่อถ่วงน้ำหนัก จากนั้นทั้งสองจึงช่วยกันอุ้มศพโยนทิ้งน้ำและกลับบ้านเตรียมเก็บของย้ายออก โดยนำบุตรสาวอีกคนไปฝากให้ญาติของสามีเลี้ยง
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ น.ส.สุภาพร ต้องลงมือทำร้ายลูกนั้นเป็นเพราะเกิดความเกลียดชังลูก โดยคิดไปเองว่าตั้งแต่"น้องรุ้ง"เกิดมาทำให้ชีวิตตกต่ำ จึงลงมือทุบตีทำร้ายน้องรุ้งเป็นประจำ บางครั้งไม่ให้กินข้าวและจับขังไม่ให้ไปไหน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อนบ้านทุกคนต่างทราบถึงพฤติกรรมอันแสนเลวร้ายของน.ส.สุภาพร เป็นอย่างดี
ผู้สือ่ข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 6 ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของปู่ย่าของน้องรุ้งและเป็นสถานที่น้องรุ้งเติบโตมาได้เรียนหนังสือถึงชั้น ป.4 ก่อนย้ายไปอยู่กับตายายที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยนายวัลลภ กุลลานันท์ และนางประมูล กุลลานันท์ อายุ 60 ปี ปู่กับย่าของน้องรุ้ง โดยนายวัลลภ ปู่ของน้องรุ้ง กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากเมื่อทราบข่าวว่าน้องรุ้งเสียชีวิตจากฝีมือแม่และพ่อเลี้ยง น้องรุ้งเป็นลูกสาวของลูกชาย คือนายไพโรจน์ กุลลานันท์ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยนายวัลลภกับแม่น้องรุ้งได้แยกทางกันตั้งแต่น้องรุ้งอายุ 3 ขวบ และตนกับภรรยาพร้อมลูกชายก็เลี้ยงน้องรุ้งเรื่อยมา กระทั่งญาติฝ่ายตากับยายได้มาติดต่อนำไปเลี้ยงที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยระยะแรกๆก็ยังสามารถติดต่อได้ แต่ก็ขาดการติดต่อไปนานแล้ว
"กระทั่งช่วงตีห้าวันนี้ ลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ โทรศัพท์มาบอกว่าน้องรุ้งเสียชีวิต รู้สึกเสียใจมาก ย่าของน้องรุ้งถึงกับเป็นลมหลายรอบ คาดว่าในวันที่ 15 มิถุนายน คงเดินทางไปที่สมุทรปราการ เพราะลูกสาวบอกว่าต้องไปเดินเรื่องเอกสารต่างๆ เพื่อนำศพน้องรุ้งออกจากโรงพยาบาลมาทำพิธีทางศาสนา" นายวัลลภ กล่าวด้วยความเศร้าเสียใจ
มีรายงานว่า หลังก่อเหตุนายวจะรันได้หนีมากบดานที่บ้านแม่ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตาม จ. สมุทรปราการ พร้อมร่วมกับทตำรวจชุดสืบสวนของจังหวัด สระบุรี ได้เข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านญาติพี่น้อง หลังจากนั้นก็นำตัวขึ้นรถกลับเข้า กทม.ช่วงเช้าที่ผ่านมา