นกพิราบทำรังใต้หลังคาโรงอาหาร ครู-นักเรียนหวั่นติดโรค

วันที่ 12 มิ.ย.60 ครูและนักเรียนโรงเรียนพุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนัก จากกรณีนกพิราบที่อพยพเข้ามาอาศัยหากินและทำรังวางไข่บนคานปูนใต้หลังคาโรงอาหารจำนวนมาก แล้วมูลตกเกลื่อนพื้นโรงอาการ ทั้งยังตกใส่ศีรษะ เสื้อผ้า และจานข้าวของนักเรียนที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงเป็นประจำ จนนักเรียนหลายคนไม่กล้าเข้าไปนั่งกินข้าวในโรงอาหาร ต้องถืออาหารไปนั่งกินตามซุ้ม และใต้ต้นไม้ด้านนอกโรงอาหาร เพราะเกรงขี้นกพิราบจะตกใส่ซึ่งอาจจะทำให้ติดเชื้อโรคได้ เป็นปัญหาเดือดร้อนมานานหลายปีแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนก็พยายามแก้ไขโดยการไล่ออกไปแล้วแต่ก็ยังกลับมาเหมือนเดิม เนื่องจากบริเวณคานปูนใต้หลังคาจะมีซอกที่นกสามารถเข้าไปทำรังได้ เบื้องต้นจึงทำได้เพียงให้ภารโรงทำความสะอาดพื้น โต๊ะนั่งรับประทานอาหารทุกเช้า พร้อมได้นำเสนอปัญหาดังกล่าวให้ทางเขตพื้นที่การศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับทราบ เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีแนวทางใดที่จะแก้ได้
นายชาตโยดม หารสุโพธิ์ นักเรียนชั้น ม.5 บอกว่า ช่วงเที่ยงเวลามานั่งกินข้าวที่โรงอาหารก็จะมีมูลนกตกลงมาใส่ตามร่างกาย และบนโต๊ะใกล้กับจานข้าวหลายครั้ง ซึ่งเพื่อนที่นั่งกินข้าวเจอแบบเดียวกัน จนบางคนไม่กล้ามานั่งกินข้าวในโรงอาหารต้องไปหานั่งกินตามซุ้ม และใต้ต้นไม้นอกโรงอาหารแทน เพราะเกรงว่าหากขี้นกตกใส่อาหารที่กำลังกินอาจจะติดเชื้อโรคได้ จึงอยากให้ทางโรงเรียนหรือหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ เข้ามาตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องนกพิราบดังกล่าวด้วย
ด้านนายสงวน กัณหา ลูกจ้างที่มีหน้าที่ทำความสะอาดในโรงเรียน บอกว่า จากการสังเกตพบว่าช่วงกลางวันจะมีนกพิราบ เข้ามาอาศัยอยู่ใต้หลังคาโรงอาหารประมาณ 3040 ตัว แต่ตอนกลางคืนจะเข้ามาอาศัยหลับนอนและทำรังอยู่หลายร้อยตัว พอรุ่งเช้าก็จะมีทั้งขน เศษหญ้ากิ่งไม้ที่นกนำขึ้นไปทำรัง และขี้นกล่วงเกลื่อนเต็มพื้นและบนโต๊ะที่เด็กใช้นั่งรับประทานอาหารทุกวัน ทำให้ทุกเช้าต้องมาคอยเช็ดล้างทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันเช่นกัน
ขณะที่นายประชัย พรสง่ากุล ผู้อำนวยการโรงเรียนพุทไธสง กล่าวว่า ผลกระทบจากนกพิราบที่เข้ามาอาศัยและทำรังวางไข่อยู่ตามซอกใต้หลังคา เป็นปัญหามานานหลายปีแล้ว ซึ่งนอกจากนักเรียนจะได้รับผลกระทบจากขี้นกที่ตกใส่ตามร่างกาย เสื้อผ้า และจานข้าวแล้ว ยังได้รับความเดือดร้อนจากขนนกปลิวไปมา และกลิ่นเหม็นจากขี้นกอีกด้วย ซึ่งทางผู้ปกครองก็สอบถามมาเป็นประจำ เพราะเป็นห่วงลูกหลานเกรงจะติดเชื้อจากขี้นกพิราบ ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้พยามยามหาทางแก้ไขทั้งขับไล่นก และให้คนงานทำความสะอาดทุกวันแล้ว แต่ก็ยังมีนกพิราบเข้ามาอาศัยและทำรังเหมือนเดิม จึงได้นำเสนอปัญหาดังกล่าวให้ทางเขตพื้นที่การศึกษาและที่ประชุมอำเภอรับทราบแล้ว เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ให้นักเรียนได้รับประทานอาหารอย่างปลอดภัย ซึ่งการแก้ไขปัญหาระยะยาวทางโรงเรียนเสนอของบจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อก่อสร้างโรงอาหารหลังใหม่แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงเตรียมหารือกับผู้ปกครอง เพื่อจัดทอดผ้าป่าหารายได้มาก่อสร้างโรงอาหารหลังใหม่ โดยจะให้มีการออกแบบที่ไม่ให้นกเข้าไปทำรังวางไข่ได้ ประกอบกับโรงอาหารเดิมที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็มีอายุกว่า 60 ปีแล้ว ทั้งยังคับแคบไม่เพียงกับจำนวนนักเรียนที่มีมากถึง 2,700 คนอีกด้วย